ยาแก้แพ้ ใช้ต่อเนื่องนานๆ จะเป็นอะไรหรือไม่?

ยาแก้แพ้

ช่วงฝุ่นพิษระบาด อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เป็นช่วงที่ผู้ป่วยภูมิแพ้ทางจมูก หรือ ภูมิแพ้ผิวหนังหลายคน ต้องรับประทาน ยาแก้แพ้ ต่อเนื่องยาวนานหลายวัน (บางคนนานเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน)

จึงมักจะมีคำถามว่า “คุณเภสัชคะ ดิชั้นกิน ยาแก้แพ้ ต่อเนื่องนานขนาดนี้ มันจะมีอันตรายไหมคะ? มันจะสะสมในร่างกายไหมคะ?  หยุดกินบ้างได้ไหมคะ?”

คำตอบ คือ ขึ้นอยู่กับ “ความรุนแรงของอาการ” และ “ชนิดของยา” ที่ใช้ค่ะ

“ความรุนแรงของอาการ” – ถ้าผู้ป่วยกำลังแวดล้อมไปด้วยสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ เช่น ไรฝุ่น, ขนสัตว์, เกสรดอกไม้, หมอกควัน และยังหลีกเลี่ยงไม่ได้    ร่างกายก็ย่อมแสดงอาการต่างๆแน่นอน…กรณีนี้ถ้าไม่ใช้ยาก็คงทรมานมาก และอาจส่งผลเสียร้ายแรงขึ้นไปเป็นโรคแทรกซ้อนอื่นได้เช่นกัน เช่น ไซนัสอักเสบ, โรคหืด, หลอดลมไว เป็นต้น

ดังนั้นควรใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามปกติ แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตามนะคะ..จากนั้นแพทย์หรือเภสัชกร จะมีหลักเกณฑ์เครื่องมือช่วยประเมินผู้ป่วยให้เองว่าควรลดหรือเพิ่มระดับการรักษาอย่างไร


“ชนิดของยา” – แต่ละรุ่นมีข้อมูลความปลอดภัยที่แตกต่างกัน ขอยกตัวอย่างยาที่ผู้ป่วยได้รับบ่อยสักกลุ่มนึง คือ “ยาต้านฮิสตามีนชนิดรับประทาน” (Oral Antihistamine) หรือ เรียกง่ายๆทั่วไปคือ “ยาแก้แพ้”

“ยาแก้แพ้” ถูกคิดค้นครั้งแรกโดยนักวิจัยชาวฝรั่งเศสในปี คศ.1937 เพื่อช่วยป้องกัน “ภาวะแพ้แบบรุนแรง” ที่เรียกว่า “Anaphylactic Shock” แต่ก็มีพิษต่อระบบอื่นๆในร่างกายสูง จึงยังไม่ถูกนำมาใช้แพร่หลาย

5 ปี ถัดมา ในคศ.1942 โมเลกุลนี้ก็ถูกพัฒนาต่อมาจนได้เป็น “ยาแก้แพ้รุ่นที่ 1” เช่น ยาคลอเฟนิรามีน (Chlorpheniramine ยาแก้แพ้เม็ดเหลืองที่หลายคนคุ้นชิน) นอกจากนั้นก็ยังมีอีกหลายตัว ได้แก่ Diphenhydramine, Triprolidine, Hydroxyzine, Cyproheptadine, Promethazine, Ketotifen

ยาแก้แพ้รุ่นนี้ลดน้ำมูกได้ดี  แต่ต้านอาการแพ้ได้ไม่ดีเท่าไหร่  เลยถูกใช้น้อยในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้  และมักเจอปัญหาอาการข้างเคียง ได้แก่ ง่วงซึม ปากแห้ง คอแห้ง ตาพร่า ท้องผูก ปัสสาวะคั่ง ซึ่งส่งผลรบกวนชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องขับขี่ยานพาหนะ ทำงานกับเครื่องจักร และผู้สูงอายุที่มักจะเกิดอาการเหล่านี้มากกว่าคนวัยหนุ่มสาว  จึงถูกควบคุมการขายในร้านยาให้จ่ายได้ในปริมาณจำกัด

ต่อมาจึงมีการพัฒนา “ยาแก้แพ้รุ่น2” ออกมาเพื่อลดอาการข้างเคียงในข้างต้น  โดยทำให้ตัวยาไม่ผ่านเข้าสู่สมอง  พบอาการง่วงน้อยมากจนถึงไม่ง่วง เช่น Loratadine, Ebastine, Cetirizine, Rupatadine เป็นต้น

จนถึงปัจจุบันนี้ก็มี “ยาแก้แพ้รุ่นที่3” ที่ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นให้มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ  ช่วยลดการคัดแน่นจมูกจากภูมิแพ้ รวมถึงบรรเทาลมพิษได้  และมีความปลอดภัยสูง  ไม่รบกวนการทำงานของตับ  ไม่มีผลต่อหัวใจ  ไม่ผ่านเข้าสมอง  สามารถใช้ได้แม้ในเด็กเล็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน เช่น Desloratadine เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่า “ยา” ก็คือสารเคมีที่มีทั้งประโยชน์และโทษ  ถึงแม้จะเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูงอย่างไร ผู้ป่วยก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยนะคะ


ยาแก้แพ้

หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ

All Pharma See

(1) J. Bousquet, et al. Next-generation Allergic Rhinitis and Its Impact on Asthma (ARIA) guidelines for allergic rhinitis based on Grading of Recommendations Assessment, Development and Evaluation (GRADE) and real-world evidence. J Allergy Clin Immunol. 2020 Jan;145(1):70-80. e3.

(2) C.R. Ganellin. Antihistamine drug. https://www.britannica.com/science/antihistamine. (สืบค้นวันที่ 15 ธค. 2564)

(3) ปารยะ อาศนะเสน. ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. “โรคภูมิแพ้ และยาต้านฮิสทามีน”. https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=1175 (สืบค้นวันที่ 15 ธค. 2564)

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความรู้ด้านสุขภาพ โภชนาการ

ภูมิแพ้บรรเทาได้ หากหลีกเลี่ยงและเสริมภูมิ

เมื่อฤดูฝนมาถึง

ความรู้ด้านสุขภาพ โภชนาการ

เปิดตำรา ศาสตร์กิน อาหารเป็นยาช่วยต้านมะเร็ง

ด้วยวิถีชีวิตที

ความรู้ด้านสุขภาพ สินค้าสุขภาพ โภชนาการ

ใครอยากผิวใส เซฟเก็บไว้เลย! รวมแหล่งอาหารที่มีคอลลาเจนสูง

รู้หรือไม่ ? ด้

ความรู้ด้านสุขภาพ โภชนาการ

รู้ไว้ไม่อ้วน โปรตีนช่วย ควบคุมน้ำหนัก ได้

เมื่อพูดถึงการ

ความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร สุขภาพแต่ละช่วงวัย โภชนาการ

รวม 5 อาหาร ช่วยปรับสมดุลผู้สูงอายุ สุขภาพดีสู้ร้อน

เมื่ออายุเพิ่มม

ยาและอาหารเสริม โภชนาการ

คู่ ยา และ อาหาร ที่ไม่ควรทานพร้อมกัน

ยา เป็นสิ่งที่ม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เอ็กซ์ต้าเห็นการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่นๆ เอ็กซ์ต้ายังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้เอ็กซ์ต้าไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า ทั้งนี้หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก