ยาหยอดตา ไอเทมตัวช่วยที่มักมองหาทุกครั้งที่มีปัญหาระคายเคืองตา หรือตาแห้ง เพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองเบื้องต้น แต่! ก็ควรทราบก่อนว่า ประเภทของยาที่จะซื้อมาใช้นั้น มีรูปแบบ และวิธีการใช้งานอย่างไร
วันนี้เอ็กซ์ต้า พลัส 💚💙 จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ยาหยอดตา 3 ประเภทที่คุณควรรู้ ว่าแบบไหนปลอดภัยและแบบไหนควรระวัง มาฝากกันค่ะ

✅ ยาหยอดตา กลุ่มสเตียรอยด์
ช่วยลดการอักเสบ ในกรณีที่ใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้ความดันตาสูงและเกิดเป็นต้อหินได้ จึงควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ พร้อมทั้งตรวจวัดความดันตาอย่างสม่ำเสมอ
หากนำไปใช้หยอดผิดประเภท เช่น นำไปหยอดในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ อาจทำให้การติดเชื้อแย่ลงได้โดยเฉพาะเชื้อราและเชื้อเริม นอกจากนี้ยังทำให้การกำจัดเชื้อทำได้ยากขึ้นเช่นกัน
ข้อควรระวัง
📌 ควรใช้ปริมาณครั้ง จำนวนหยด วันและเวลา ตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น
📌 หากหมดแล้ว และ อาการยังไม่ดีขึ้น ไม่ควรนำตัวอย่างไปซื้อเอง ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อน
📌 พบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อตรวจเช็กว่าเสี่ยงเป็นต้อหินหรือไม่

✅ กลุ่มน้ำตาเทียม
ใช้ในผู้ที่มีอาการตาแห้ง ระคายเคืองตา ผู้ที่ต้องนั่งหน้าจอเป็นระยะเวลานาน ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ ซึ่งเป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัย เพียงแต่ผู้ใช้ควรต้องทราบก่อนว่าอาการตาแห้งมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด
น้ำตาเทียมแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1. น้ำตาเทียมแบบขวด หรือ น้ำตาเทียมรายเดือน
มีลักษณะเหลวใส ใช้งานง่าย มีราคาถูกกว่าประเภทอื่นมีอายุการใช้งานหนึ่งเดือนหลังเปิดใช้ และไม่ควรใช้เกินวันละ 4 ครั้ง เพราะอาจทำให้ผิวกระจกตาหลุดร่อนได้
ข้อควรระวัง: เนื่องจากมีการใส่สารกันเสีย จึงทำให้อาจเกิดการแพ้ หรือระคายเคืองในผู้ใช้งานบางรายอีกทั้งควรระมัดระวัง หากจัดเก็บไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณดวงตาในระหว่างการใช้งานได้
2. น้ำตาเทียมแบบหลอด หรือ น้ำตาเทียมแบบรายวัน
มีลักษณะแบ่งบรรจุเป็นหลอด ในปริมาณเท่ากัน ลดโอกาสการติดเชื้อปนเปื้อนจากภายนอก สามารถพกพาได้สะดวกใช้งานง่าย
ข้อควรระวัง: เนื่องจากไม่มีสารกันเสีย จึงทำให้มีอายุการใช้งานอยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมง หลังจากเปิด
3. น้ำตาเทียมแบบเจล หรือ ขี้ผึ้งป้ายดวงตา
มีลักษณะหนืดค่อนข้างมากกว่าชนิดอื่น ทำให้รักษาความชุ่มชื้นได้นานกว่า จึงไม่จำเป็นต้องใช้งานบ่อย
ข้อควรระวัง: หลังจากหยอดแล้ว อาจมีอาการตาพร่ามัวชั่วคราว แนะนำให้ใช้ช่วงเวลาก่อนนอน ในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ควรใช้ เนื่องจากจะทำให้ประสิทธิภาพของเลนส์ และการมองเห็นลดลง


