บทความที่แล้ว พี่เภสัชใจดีได้เล่าเรื่อง อันตรายของผลกระทบจากอาการแน่นจมูกไป
(อ่านบทความเรื่อง “อาการ คัดจมูก เหตุเกิดในรูเล็ก ที่อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่” ได้ที่นี่)
ผู้ป่วยภูมิแพ้ หลายคนก็เลยเริ่มตื่นตัว ถามไถ่กันเข้ามาเยอะมาก ๆ ว่า “มียาตัวไหนที่ลดอาการ คัดจมูก จากภูมิแพ้ได้ผลดีบ้าง? และคุณสมบัติต่างกันอย่างไร?” วันนี้พี่เภสัชใจดี จึงมายกตัวอย่างยาลดอาการ คัดจมูก จากภูมิแพ้ ที่ใช้บ่อยในร้านยา ให้ทราบเบื้องต้นกันค่ะ
1. ยาชนิดพ่นจมูก – มีตัวยาออก ที่ฤทธิ์ได้ 2 แบบ
-
-
ยาหดหลอดเลือด (Intranasal decongestant) ชนิดพ่น/หยอดในโพรงจมูก เช่น ตัวยา ออกซีเมแทโซลีน ไฮโดรคลอไรด์ (Oxymethazoline Hydrochloride)
-
ยาพ่นจมูกกลุ่มนี้มีจุดเด่นที่สามารถออกฤทธิ์ได้เร็วมาก คือ ภายใน 3-15 นาทีหลังพ่นหรือหยอดยา นับว่าเห็นผลเร็วดีทันใจหลายคน ..แต่ข้อเสียคือ ถ้าใช้ต่อเนื่องนานเกิน 5-7วัน อาจทำให้เกิดอาการคัดแน่นจมูกกลับมามากขึ้นหลังหยุดยา (rebound congestion) หรือระคายเคืองมากจนมีน้ำมูกเพิ่มขึ้นได้ (แบบที่ภาษาชาวบ้านชอบเรียกว่า Yo-yo effect นั่นล่ะค่ะ) จึงไม่ควรใช้ยานี้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน และไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
-
-
ยาสเตียรอยด์ชนิดพ่นจมูก (Intranasal steroid) – เช่น ตัวยา ฟลูติคาโซน โพรพิโอเนท (Fluticasone propionate), ตัวยา โมเมทาโซน ฟูโรเอท (Mometasone Furoate)
-
-
-
-
เป็นกลุ่มยาที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการคัดแน่นจมูกเช่นกัน การออกฤทธิ์จะเกิดขึ้นหลังพ่นยาเข้าไปแล้วหลายชั่วโมง หรือในผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์กว่าที่อาการจะดีขึ้นในระดับที่พึงพอใจ แต่ยาจะออกฤทธิ์ที่ต้นเหตุ โดยไปลดกระบวนการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกที่เกิดจากโรคภูมิแพ้โดยตรง ดังนั้นจึงเหมาะจะเป็นยาที่ใช้สำหรับการควบคุมอาการโดยพ่นต่อเนื่องทุกวัน ใช้ในกรณีคัดแน่นจมูกรุนแรง/เรื้อรัง
-
ยาพ่นสเตียรอยด์รุ่นใหม่ ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดน้อยกว่ารุ่นเก่า ทำให้มีการศึกษาพบว่า เด็กกลุ่มที่ใช้ยาพ่นสเตียรอยด์รุ่นใหม่ มีอัตราการเจริญเติบโตไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้ใช้ยานี้ จึงสามารถใช้ได้ต่อเนื่องนานถึง 1 ปี ผลข้างเคียงที่พบได้บ้าง คือ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองเฉพาะที่ ทำให้รู้สึกอึดอัด ในโพรงจมูก ซึ่งพบได้ร้อยละ 2-10 หรืออาจมีภาวะตกเลือดกำเดาบ้าง แต่จะหายไปเองเมื่อหยุดใช้ยา
-
ยาพ่นสเตียรอยด์รุ่นใหม่บางชนิด นอกจากรักษาอาการคัดแน่นจมูกจากภูมิแพ้ได้แล้ว ยังมีข้อบ่งใช้ในการรักษาโรคไซนัสอักเสบ (Sinusitis) ได้ด้วย
-
-
2. ยาชนิดรับประทาน – มีตัวยาออก ที่ฤทธิ์ได้ 2 แบบ
-
-
ยาหดหลอดเลือดชนิดรับประทาน (Oral decongestant) เช่น ตัวยา ฟีนิลอีฟริน (Phenylephrine)
-
ข้อดีคือใช้ง่าย ผู้ป่วยบางคนรู้สึกว่าสะดวกกว่าการพ่นยา ออกฤทธิ์ภายใน 30 นาทีหลังรับประทาน แต่ฤทธิ์จะน้อยกว่าชนิดพ่น/หยอดจมูก และ ควรใช้อย่างระมัดระวังเนื่องจากอาจทำให้เกิดผลเคียงหลายอย่างได้คือ กระสับกระส่าย หัวใจเต้นเร็วผิดปรกติเวียนศีรษะ ปวดหัว มือสั่น นอนไม่หลับ
-
และผู้ป่วยโรคต้อหิน ต่อมลูกหมากโตไทรอยด์เป็นพิษ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยมีปัญหาทางจิต ควรแจ้งให้แพทย์/เภสัชกรทราบ ก่อนจะได้รับยาหดหลอดเลือดชนิดรับประทาน รวมถึงผู้ป่วยที่กำลังใช้ยาสมุนไพรบางชนิด เช่น curcumin, ginkgo extract ด้วย
-
-
ยาต้านฮิสตามีนชนิดรับประทานรุ่นใหม่ (New generation Oral antihistamine) เช่น ตัวยา เดสลอราทาดีน (Desloratadine)
-
ยากลุ่มนี้มีฤทธิ์ต้านคัดแน่นจมูกน้อยกว่ายาหดหลอดเลือดชนิดรับประทานและยาพ่นจมูก แต่มีข้อดีคือ ช่วยลดต้นเหตุการอักเสบจากภูมิแพ้ ใช้ง่าย รับประทานวันละ1ครั้ง และมีความปลอดภัยสูง ใช้ได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6เดือนขึ้นไป จึงนิยมใช้เป็นยาพื้นฐานตัวแรกในกรณีที่มีอาการคัดแน่นจมูกจากภูมิแพ้ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยจะออกฤทธิ์ 30 นาทีหลังรับประทานยา
-
-
นอกจากการใช้ยาข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว การออกกำลังกายก็จะทำให้จมูกโล่งขึ้นได้เนื่องจากมีการกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติก ทำให้มีการหดตัวของเยื่อบุในโพรงจมูกได้ สำคัญที่สุดคือควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ก่อภูมิแพ้ และพักผ่อนให้เพียงพอด้วยค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยาเหล่านี้ใช้ลดอาการ คัดจมูก จากภาวะจมูกอักเสบ และ ไซนัสอักเสบ (allergic/non-allergic rhinitis, acute/chronic rhinosinusitis) ผู้ป่วยจึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อซักประวัติคัดกรองโรคก่อนเริ่มใช้ยา และใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น และถ้ามีปัญหาเรื่องโรคภูมิแพ้, การใช้ยา มาปรึกษาพี่เภสัชใจดีที่แอพพลิเคชั่น ALL PharmaSee หรือ ร้านยา eXta ใกล้บ้านทุกสาขา ได้เลยนะคะ
![คัดจมูกจากภูมิแพ้ ดูแลตัวเองยังไงดี](https://www.exta.co.th/wp-content/uploads/2022/03/No.4_DS_Allergy_eXTa_Social-media-content_1040x1040-px-final-Mar-25_2022-C-01-800x800.jpg)
หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องอาการ คัดจมูก จากภูมิแพ้ หรือเรื่องสุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ
![All Pharma See](https://www.exta.co.th/wp-content/uploads/2020/11/S__21725192.jpg)
(1) “ภาวะคัดแน่นจมูก”- เวชศาสตร์เขตเมือง 4.0. ทุนชัย ธนสัมพันธ์, ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมิทราธิราช. ปารยะ อาศนะเสน, ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล.
(2) E J Schenkel, et al. Absence of growth retardation in children with perennial allergic rhinitis after one year of treatment with mometasone furoate aqueous nasal spray. Pediatrics. 2000 Feb;105(2): E22.
(3) J. Bousquet, et al. Next-generation Allergic Rhinitis and Its Impact on Asthma (ARIA) guidelines for allergic rhinitis based on Grading of Recommendations Assessment, Development and Evaluation (GRADE) and real-world evidence. J Allergy Clin Immunol. 2020 Jan;145(1):70-80. e3.