กักตัวอุ่นใจ Home Isolation

ในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ที่ยังมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก

ทำให้เตียงในโรงพยาบาลไม่เพียงพอต่อการรักษาคนไข้ที่ติดเชื้อทั้งหมด ทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายใหม่เข้าถึงการรักษาช้าลง จึงเกิดแนวคิด  Home Isolation หรือการดูแลตนเองจากที่บ้าน ซึ่งสามารถทำได้ในผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย หรือไม่มีอาการ รวมถึงผู้ป่วยที่รักษาที่โรงพยาบาลมาแล้วอย่างน้อย 7-10 วัน ซึ่งผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มจะต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี พักอาศัยอยู่คนเดียว หรืออยู่ร่วมกับคนอื่นไม่เกิน 1 คน และไม่เป็นโรคที่เสี่ยงทำให้อาการแย่ลง ยกตัวอย่างเช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง  โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคเบาหวาน


ทั้งนี้การพิจารณาขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งการกักตัวเพื่อพักรักษาตัวที่บ้านต้องเป็นความสมัครใจของผู้ป่วยเองด้วย ข้อดีของการกักตัวที่บ้านคือจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาได้เร็วขึ้น และ การอยู่บ้านจะช่วยลดความเครียด ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไวขึ้นนั่นเอง

Home-isolation

🔹 ขั้นตอนในการเข้าสู่ระบบการแยกกักตัวที่บ้าน เมื่อตรวจพบเชื้อซึ่งรวมถึงการตรวจด้วย Antigen Test Kit ที่ผ่านการรับรองจากอย.ให้ผลเป็นบวก ให้ทำการลงทะเบียนเพื่อเป็นคนไข้ในระบบด้วยการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ของสปสช. หรือโทรสายด่วนสปสช. 1330 ต่อ 14 ซึ่งหลังจากที่ลงทะเบียนแล้วนั้นจะมีเจ้าหน้าติดต่อกลับ และจะได้รับที่ปรอทวัดไข้เพื่อวัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว รวมถึงยาในการรักษา ผู้ป่วยจะได้รับการติดตามอาการจากบุคลากรทางการแพทย์ทุกวันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง


นอกจากที่จะได้รับอุปกรณ์ที่จำเป็นแล้ว สิ่งที่เราจะต้องเตรียมเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นมีรายการดังนี้ 

  1. เจลล้างมือสำหรับล้างมืออย่างสม่ำเสมอ

  2. แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อสำหรับเช็ดหลังสัมผัสสิ่งของต่างๆ

  3. หน้ากากอนามัยเพื่อสวมตลอดเวลาที่ไม่อยู่คนเดียว

  4. ถุงสำหรับขยะติดเชื้อ

  5. น้ำยาฟอกขาวสำหรับทำความสะอาด

และการเตรียมยารักษาโรคที่รับประทานเป็นประจำก็เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อการรักษาอย่างต่อ ดังนั้น ควรที่จะจัดเตรียมให้เพียงพอในช่วงที่การกักตัวที่บ้าน


🔹 ข้อปฏิบัติของผู้ป่วยโควิดที่กักตัวที่บ้าน 

  1. ใช้ปรอทวัดไข้ วัดอุณหภูมิทุกวัน หากมีไข้เกิน37.5 องศาเซลเซียส ควรรับประทานยาลดไข้ และพักผ่อนมากๆหากไม่ดีขึ้นให้รีบติดต่อแพทย์ ควรบันทึกการวัดค่าเพื่อรายงานต่อบุคลากรทางการแพทย์ในแต่ละวัน

  2. วัดค่าออกซิเจนด้วยการใช้เครื่องวัดปริมาณออกซิเจนปลายนิ้ว ค่าปกติไม่ควรต่ำกว่า96% หากต่ำกว่าเกณฑ์ให้รีบติดต่อแพทย์และควรบันทึกการวัดค่าเพื่อรายงานต่อบุคลากรทางการแพทย์ในแต่ละวัน

  3. ห้ามผู้อื่นมาเยี่ยมและแยกตัวจากบุคคลอื่นในครอบครัว แยกใช้ห้องน้ำจากผู้อื่น

  4. ไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากช่วงที่รับประทานอาหาร ต้องถอดหน้ากากอนามัยอาจเกิดการแพร่เชื้อได้รวมถึงไม่ใช่ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

  5. ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อทำให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติไวที่สุด

  6. หมั่นเปิดหน้าต่างเพื่อให้มีช่องทางลมเข้าออกลดการสะสมเชื้อ

  7. ล้างมือเป็นประจำอย่างถูกวิธีอย่างน้อย30 วินาที โดยเฉพาะหลังการไอ จาม และขับถ่าย

  8. ผู้ป่วยควรหมั่นทำความสะอาดของที่มีการสัมผัสร่วมกันหลังมีการหยิบจับ เช่น ลูกบิดประตูสวิตช์ไฟ เพื่อไม่ให้คนอื่นที่มาใช้ต่อเสี่ยงรับเชื้อ

  9. สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่มีบุคคลอื่นอยู่ร่วมด้วย

  10. ซักผ้าด้วยสบู่หรือผงซักฟอกในน้ำอุณหภูมิ60-90 องศาเซลเซียส


ทั้งนี้ให้หมั่นสังเกตตนเองหากมีอาการไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส วัดค่าออกซิเจนปลายนิ้วได้ต่ำกว่า 96% มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจติดขัด นอนราบไม่ได้ ซึมลง ให้รีบติดต่อแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยในระบบทันที


รู้อย่างนี้แล้ว หากต้องทำงานที่บ้านไปอีกนาน ควรลงทุนซื้อโต๊ะและเก้าอี้ที่เหมาะสมกับการทำงาน เพื่อสุขภาพของเราเองนะคะ แต่หากเกิดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อจากการทำงานบนเตียง หรือมีภาวะนอนไม่หลับจากการทำงานบนเตียง สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

Open this in UX Builder to add and edit content

เอกสารอ้างอิง

1.Thaihealth.or.th. 2021. คู่มือ การแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) – Thaihealth.or.th | สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.).

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

5 กิจกรรมทำคลายเครียด เมื่อต้องอยู่ห้องนาน ๆ ในช่วง WFH

ปัจจุบันประเทศไทยเรามีมาตรการ Lockdown ส่งผลให้เราจำเป็นต้อง Work From Home อย่างเลี่ยงไม่ได้  

Work from Bed ภัยเงียบที่ควรระวัง

หลังจากที่เรา Work from Home กันมาสักระยะนึงแล้วจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 และก็ยังไม่มีวี่แววว่าเราจะได้กลับไป Work at Office กันเมื่อไร

3 วิธีพบเภสัชกรได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล สะดวก ปลอดภัย ทำได้ที่บ้านคุณ

3 วิธีพบเภสัชกรได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล สะดวก ปลอดภัย ทำได้ที่บ้านคุณ 🏡 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เอ็กซ์ต้าเห็นการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่นๆ เอ็กซ์ต้ายังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้เอ็กซ์ต้าไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า ทั้งนี้หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
    Cookies Details

บันทึก