ยาสามัญประจำบ้าน ที่จำเป็นต้องมี พร้อมสรรพคุณและวิธีใช้

ยาสามัญประจำบ้าน ที่จำเป็นต้องมี พร้อมสรรพคุณและวิธีใช้

ยาสามัญประจำบ้าน อีกหนึ่งสิ่งจำเป็นสำคัญ ที่เจ้าของบ้านทุกคนควรมีติดบ้าน เพราะอาการเจ็บป่วย หรือ การเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทั้งกับตัวเราเอง และคนรอบข้าง ดังนั้น การเตรียมความพร้อมในเรื่องของ “ยาบรรเทาอาการ” จึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาอาการเจ็บป่วย หรือ ปฐมพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุเบื้องต้นได้ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน  

บทความนี้ ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส จึงได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ ยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็นต้องมี พร้อมสรรพคุณและวิธีใช้ มาฝากกัน 

 

ยาสามัญประจำบ้าน คืออะไร 

ยาสามัญประจำบ้าน (Household Remedy หรือ First Aid Kits) เป็นชื่อเรียกของกลุ่มยาแผนปัจจุบันและแผนโบราณ ที่ทางกระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้ประชาชนทุกคนสามารถซื้อมาใช้เองได้จากร้านขายยาที่น่าเชื่อถือ  

 

ยาสามัญประจำบ้าน

โดยผู้ซื้อสามารถสังเกตได้จากฉลากบนขวด หรือกล่องยาที่มีข้อความ “ยาสามัญประจำบ้าน อยู่ภายในกรอบสีเขียว นั่นหมายถึง ยาประเภทดังกล่าวมีความปลอดภัยสูง หากปฏิบัติตามคำแนะนำ และวิธีการใช้ยาอย่างถูกต้องจากเภสัชกร ซึ่งปัจจุบันได้ถูกแบ่งออกเป็น 2  ประเภทหลัก ๆ ดังนี้ 

 

ประเภทของยาสามัญประจำบ้าน 

1. ยาสามัญประจำบ้าน ประเภทยาใช้ภายใน

 

ยาสามัญประจำบ้าน ประเภทยาใช้ภายใน

 

เป็นยาที่รับประทานเพื่อรักษา หรือ บรรเทาอาการเจ็บป่วยภายในร่างกาย เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้แพ้ และยาลดน้ำมูก ฯลฯ 

ตัวอย่างยาสามัญประจำบ้าน (ใช้ภายใน) 

  • พาราเซตามอล สำหรับแก้อาการปวด 
  • ยาแก้ไอชนิดเม็ด และ ชนิดน้ำ ฯลฯ 

 

2. ยาสามัญประจำบ้าน ประเภทยาที่ใช้ภายนอก

 

ยาสามัญประจำบ้าน ประเภทยาที่ใช้ภายนอก

 

เป็นยาที่ใช้กับผิวหนัง หรื อวัยวะภายนอกร่างกาย เช่น ยาทาแก้ผื่นผิวหนัง ยาหยอด ยาดม ยาล้างบาดแผล ยาใส่แผล ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ และยาดม  เป็นต้น  

ตัวอย่างยาสามัญประจำบ้าน (ใช้ภายนอก) 

  • เบตาดีน สำหรับฆ่าเชื้อแผล 
  • ยาดม แก้อาการวิงเวียนศีรษะ 

ซึ่งนอกจากตัวยาที่กล่าวมาข้างต้น ก็ยังมียาสามัญประจำบ้านอีกหลายกลุ่ม ที่เจ้าของบ้านควรมีติดบ้านเอาไว้ เพื่อสำหรับใช้รักษา หรือบรรเทาอาการ เมื่อมีอาการเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุเบื้องต้น

 

15 กลุ่มยาสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดบ้าน พร้อมสรรพคุณ 

1. กลุ่มยาแก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ 

รายชื่อยา สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
ยาลดกรด อะลูมินา-แมกนีเซีย
ทั้งชนิดของยาสามัญประจำบ้านแบบเม็ด และ ชนิดน้ำ
บรรเทาอาการจุกเสียด ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ
และปวดท้อง เนื่องจากกรดในกระเพาะอาหาร
 

ชนิดเม็ด (เคี้ยวก่อนกลืน)
รับประทานก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง หรือหลังอาหาร 1 ชั่วโมง

เด็ก 612 ปี ครั้งละ 1-2 เม็ด
ผู้ใหญ่ ครั้งละ 1-4 เม็ด 

 

ชนิดน้ำ (เขย่าขวดก่อนใช้ยา)
รับประทานก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง
หรือหลังอาหาร 1 ชั่วโมง
เมื่อมีอาการ 

เด็ก 3- 6 ปี ครั้งละ ครึ่ง -1 ช้อนชา
เด็ก 6-12 ปี ครั้งละ 1-2 ช้อนชา
ผู้ใหญ่ ครั้งละ 1-4 ช้อนชา 

 

ยาเม็ดแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ  
โซดามินท์ 
บรรเทาอาการจุกเสียด ลดอาการระคายเคือง เนื่องจากกรดในกระเพาะอาหาร 
รับประทานหลังอาหาร 1 ชั่วโมง
หรือ เมื่อมีอาการ  เด็ก 6-12 ปี ครั้งละ 1-3 เม็ด
ผู้ใหญ่ ครั้งละ 3-6 เม็ด 
ยาขับลม บรรเทาอาการท้องขึ้น ท้องอืดท้องเฟ้อ
และขับลมในกระเพาะอาหาร

เขย่าขวดก่อนใช้ยา

รับประทานวันละ 3-4 ครั้ง

เด็ก 6-12 ปี ครั้งละ ครึ่ง – 1 ช้อนโต๊ะ
ผู้ใหญ่ ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ 
ยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ยาธาตุน้ำแดง
บรรเทาอาการปวดท้อง เนื่องจากจุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ
เขย่าขวดก่อนใช้ยา

รับประทานก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง

เด็ก 6-12 ปี ครั้งละ ครึ่ง – 1 ช้อนโต๊ะ
ผู้ใหญ่ ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ 
ยาน้ำแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
โซเดียมไบคาร์บอเนต
บรรเทาอาการ ท้องอืด ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ เนื่องจากมีกรดในกระเพาะอาหารมาก
ใช้สำหรับป้อนให้ทารกและเด็กหลังอาหารเมื่อมีอาการ

เด็ก 16 เดือน ครั้งละ 1 ช้อนชา
เด็ก 6-12 เดือน ครั้งละ 2 ช้อนชา
เด็ก 2-3 ปี ครั้งละ 2-3 ช้อนชา 

ไม่ควรให้เกินวันละ 6 ครั้ง
ทารกแรกเกิด -1 เดือน ไม่ควรใช้


ยาทาแก้ท้องอืด
ท้องเฟ้อ

ทิงเจอร์มหาหิงคุ์

บรรเทาอาการท้องอืด ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ สำหรับเด็ก ทาบาง ๆ บริเวณหน้าท้อง
วันละ 2-3 ครั้ง

 

2. กลุ่มยาแก้ท้องเสีย 

รายชื่อยา  สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
 ยาแก้ท้องเสีย
ผงน้ำตาลเกลือแร่ 
ใช้สำหรับทดแทนการสูญเสียน้ำในร่างกาย
รวมถึงคนที่มีอาการท้องร่วง 
หรือในรายที่มีการอาเจียนมาก ๆ
เพื่อป้องกันอาการช็อกเนื่องจากร่างกายขาดน้ำ 
เทผงยาทั้งซองละลายในน้ำสะอาด
ประมาณ 250 มิลลิลิตร (1 แก้ว)
เด็กอ่อน – 2 ปี
ให้ดื่มทีละน้อยสลับกับน้ำเปล่า
เด็กอายุมากกว่า 2 ปี – ผู้ใหญ่
ควรดื่มสารละลายเกลือแร่ 1 แก้ว

3. กลุ่มยาระบา 

รายชื่อยา สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้

ยาระบายกลีเซอรีน

ชนิดเหน็บทวารสำหรับเด็ก
บรรเทาอาการท้องผูก ใช้เหน็บ
ทวารหนักเพื่อช่วยในการขับถ่าย
ใช้เหน็บทวารหนักครั้งละ 1 แท่ง
เมื่อต้องการ โดยควรรอไว้ 15 นาที
เพื่อให้ตัวยาละลาย

ยาระบายกลีเซอรีน

ชนิดเหน็บทวารสำหรับผู้ใหญ่
ยาระบายแมกนีเซีย เป็นยาระบาย
เขย่าขวดก่อนใช้ยา

รับประทานก่อนนอน หรือ ตื่นนอนเช้า

เด็ก 1-6 ปี ครั้งละ 1-3 ช้อนชา
เด็ก 6-12 ปี ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ
ผู้ใหญ่ ครั้งละ 2-3 ช้อนโต๊ะ 
ยาระบายมะขามแขก ชนิดเม็ด
รับประทานก่อนนอน หรือ ตื่นนอนตอนเช้า

เด็ก 6-12 ปี ครั้งละ 1-2 เม็ด
ผู้ใหญ่ ครั้งละ 3-4 เม็ด 
ยาระบายโซเดียม คลอไรด์
ชนิดสวนทวาร
ใช้สวนทวารเพื่อให้ถ่ายอุจจาระ
สวนเข้าทวารหนักแล้วกลั้นไว้ และจึงเข้าห้องน้ำ

เด็ก 1-6 ปี ใช้ครั้งละ 5-10 มล.
เด็ก 6-12 ปี ใช้ครั้งละ 10-20 มล.
ผู้ใหญ่ ใช้ครั้งละ 20-40 มล. 

 

4. กลุ่มยาถ่ายพยาธิ 

รายชื่อยา  สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
ยาถ่ายพยาธิตัวกลม 
มีตัวยาเบนดาโซล
ใช้สำหรับถ่ายพยาธ 
เส้นด้ายตัวกลม 
เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน
สำหรับพยาธิเส้นด้าย และพยาธิเข็มหมุด เด็ก 2 ปี – ผู้ใหญ่ 
รับประทานครั้งละ 1 เม็ดหลังอาหารเย็น

สำหรับพยาธิตัวกลมอื่น ๆ ได้แก่
พยาธิปากขอ พยาธิไส้เดือน
และพยาธิแส้ม้า  เด็ก 2 ปี – ผู้ใหญ่ 
รับประทานครั้งละ 1 เม็ดวันละ 2 ครั้ง
หลังอาหารเช้าและเย็นติดต่อกัน 3 วัน

 

5. กลุ่มยาบรรเทาปวด ลดไข้ 

รายชื่อยา สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
ยาเม็ดบรรเทาปวด ลดไข้พาราเซตามอล
325 มก.
ใช้สำหรับลดไข้
บรรเทาอาการปวด
รับประทานทุก 4 – 6 ชั่วโมง
เมื่อมีอาการ และไม่ควรทานเกิน 4 ครั้ง/วัน เด็ก 6-12 ปี ครั้งละ ครึ่ง-1 เม็ด
ผู้ใหญ่ ครั้งละ 1-2 เม็ด
ยาเม็ดบรรเทาปวด ลดไข้พาราเซตามอล
500 มก.
รับประทานตอนท้องว่างหรือหลังอาหารทันทีทุก 4-6 ชั่วโมง
และดื่มน้ำมาก ๆ เมื่อมีอาการ

ไม่ควรทานเกินวันละ 5 ครั้ง

เด็ก 3-6 ปี ครั้งละ ครึ่ง-1 เม็ด
เด็ก 6-12 ปี ครั้งละ 1 เม็ด
ผู้ใหญ่ ครั้งละ 1-2 เม็ด
ยาน้ำบรรเทาปวด ลดไข้พาราเซตามอล รับประทานทุก 4 – 6 ชั่วโมง
เมื่อมีอาการ และไม่ควรทาน
เกิน 5 ครั้ง/วัน  เด็ก 3-6 ปี ครั้งละ 1 ช้อนชา
พลาสเตอร์บรรเทาปวด  ใช้บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ  เช็ดบริเวณผิวหนังให้สะอาด
และแห้ง จากนั้น ปิดพลาสเตอร์
บริเวณที่มีอาการปวด ควรเปลี่ยนวันละ 1-2 ครั้ง 

 

6. กลุ่มยาแก้แพ้ลดน้ำมูก 

รายชื่อยา  สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
ยาเม็ดแก้แพ้ ลดน้ำมูก 
คลอร์เฟนิรามีน 
บรรเทาอาการแพ้
เช่น ลมพิษ น้ำมูกไหล 
รับประทานทุก 4 ชั่วโมง
เมื่อมีอาการเด็ก 6-12 ปี
รับประทานครั้งละ 1 เม็ด
ไม่ควรเกินวันละ 6 เม็ด

ผู้ใหญ่
รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด
ไม่ควรเกินวันละ 12 เม็ด 

 

7. กลุ่มยาแก้ไอ ขับเสมหะ  

รายชื่อยา 

สรรพคุณ

ขนาดและวิธีใช้

ยาน้ำแก้ไอขับเสมหะ

สำหรับเด็ก

บรรเทาอาการไอ

และช่วยขับเสมหะ

รับประทานวันละ 3-4 ครั้ง

เด็ก 1-3 ปี ครั้งละ ครึ่งช้อนชา
เด็ก 3-6 ปี ครั้งละ 1 ช้อนชา
เด็ก 6-12 ปี ครั้งละ 2 ช้อนชา

ยาแก้ไอน้ำดำ

เขย่าขวดก่อนใช้รับประทาน
3-4 ครั้ง

เด็ก 6-12 ปี ครั้งละ ครึ่ง-1 ช้อนชา
ผู้ใหญ่ ครั้งละ 1-2 ช้อนชา

 

8. กลุ่มยาดม หรือ ทาแก้วิงเวียน หน้ามื คัดจมู 

รายชื่อยา 

สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้

ยาดมแก้วิงเวียน
เหล้าแอมโมเนียหอม 

บรรเทาอาการวิงเวียน
หน้ามืด หรือใช้ทาผิวหนังเนื่องจากพิษแมลงกัดต่อย
หรือถูกพืชมีพิษ

ใช้ชุบสำลีดม หรือ ใช้ทา

ยาดมแก้วิงเวียน
แก้คัดจมูก

บรรเทาอาการคัดจมูก
หายใจไม่ออก และวิงเวียนศีรษะ

ใช้สูดดม หรือ ทาบาง ๆ
ตามคอและหน้าอก

ยาทาระเหยบรรเทาอาการ
คัดจมูกชนิดขี้ผึ้ง
บรรเทาอาการคัดจมูก
และลดอาการหวัด

ทายาที่บริเวณลำคอ
หน้าอกและหลัง

 

9. กลุ่มยาแก้เมารถ เมาเรือ

รายชื่อยา  สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
ยาเม็ดแก้เมารถ เมาเรือ 
ไดเมนไฮดริเนท
ใช้ป้องกันอาการเมารถ เมาเรือ ผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 1 เม็ด
ก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 30 นาที

 

10. กลุ่มยาสำหรับโรคตา

รายชื่อยา สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
ยาหยอดตา ซัลฟาเซตาไมด์ รักษาอาการตาแดง ตาอักเสบจากโรคติดเชื้อ ใช้หยอดตาครั้งละ 1-2 หยด

วันละ 3-4 ครั้ง

ยาล้างตา ใช้ล้างตาเพื่อบรรเทาอาการแสบตา ระคายเคืองตา เนื่องจากผง ควัน สิ่งสกปรกเข้าตา ใช้ล้างตาวันละ 2-3 ครั้ง

 

11. กลุ่มยาสำหรับโรคปาก และลำคอ 

รายชื่อยา สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
ยากวาดคอ บรรเทาอาการอักเสบและเจ็บในลำคอ เติมน้ำสะอาดเท่าตัว
แล้วใช้กวาดคอในผู้ใหญ่
ยารักษาลิ้นเป็นฝ้า
เยนเซี่ยนไวโอเลต
รักษากระพุ้งแก้ม และลิ้นเป็นฝ้าขาว ใช้สำลีชุบทาบริเวณที่เป็น
วันละ 2-3 ครั้ง
ยาแก้ปวดฟัน บรรเทาอาการปวดฟัน ใช้ไม้เล็ก ๆ พันสำลี
ชุบยาอุดฟันบริเวณที่เป็นรู
ยาอมบรรเทาอาการระคายคอ ช่วยให้ชุ่มคอ ลดอาการระคายคอ อมให้ละลายในปากช้า ๆ
ครั้งละ 1-5 เม็ด
ยาอมบรรเทาอาการเจ็บคอ ช่วยให้อาการเจ็บคอดีขึ้น

 

12. กลุ่มยาใส่แผล ล้างแผล 

รายชื่อยา สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
ยาใส่แผล ทิงเจอร์ไอโอดีน รักษาแผลสด ใช้สำลีสะอาดชุบยา จากนั้นทาบริเวณแผล
ยาใส่แผล ทิงเจอร์ไทเมอรอซอล ใช้รักษาแผลถลอก แผลเปื่อย
ยาใส่แผล โพวิโดน-ไอโอดีน รักษาแผลสด
ยาไอโซโพรพิล แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดบาดแผลทุกชนิด ใช้ทำความสะอาดรอบบาดแผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ยาเอทิล แอลกอฮอล์
น้ำเกลือล้างแผล

 

13. กลุ่มยารักษาแผลติดเชื้อ ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก 

รายชื่อยา  สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
ยารักษาแผลติดเชื้อ 
ซิลเวอร์ ซัลฟาไดอาซีน ครีม 
ใช้ทาภายนอกเพื่อรักษาอาการ
ติดเชื้อของแผล ที่เกิดจาก
ไฟไหม้ หรือ น้ำร้อนลวก
ทำความสะอาดแผลให้สะอาด
และใช้ทาบริเวณแผลที่เป็น
ทุกวันวันละ 2 ครั้งสำหรับแผลที่ถูกไฟไหม้ควรทาครีม
ทุก 24 ชั่วโมง 

 

14. กลุ่มยาบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ แมลงกัดต่อย 

รายชื่อยา  สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
ยาหม่อง ชนิดขี้ผึ้ง บรรเทาอาการปวด บวม
อักเสบเนื่องจากแมลงกัดต่อย
หรือปวดเมื่อยตามร่างกาย
ทาและนวดบริเวณที่มีอาการ

 

15. กลุ่มยาสำหรับโรคผิวหนัง

รายชื่อยา สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้
ยารักษาหิดเหา
เบนซิล เบนโซเอต
ใช้สำหรับรักษาหิด เหา และ โลน
เขย่าขวดก่อนใช้ยา
สำหรับเด็กเล็กแนะนำให้
แบ่งยามาเติมน้ำเท่าตัว
จากนั้นผสมให้เข้ากัน

สำหรับรักษาหิด
อาบน้ำให้สะอาดใช้ผ้าหรือแปรงอ่อน ๆ
ถูบริเวณที่มีผื่นคัน จากนั้นทายาทิ้งไว้
24 ชั่วโมง และทำซ้ำใหม่อีกครั้ง

สำหรับรักษาเหา และ โลน
ทาบริเวณที่มีเหา หรือ โลน
ทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน หากเป็นมาก
แนะนำให้ใช้ 2 ครั้งต่อวัน

หากภายใน 7 วันยังไม่หายให้ใส่ยาซ้ำตามวิธีเดิม

ยารักษาหิด
ขี้ผึ้งกำมะถัน
ใช้สำหรับรักษาโรคหิด
ทาบริเวณที่เป็นหิด
วันละ 2-3 ครั้ง
 
ยารักษากลากเกลื้อน
น้ำกัดเท้า
รักษากลาก เกลื้อน
และโรคน้ำกัดเท้า
ทาบริเวณที่เป็นโรค
วันละ 2-3 ครั้ง
ยารักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง
บางชนิด เช่น เรื้อนกวาง
ผิวหนังเป็นผื่นคัน
ยาทาแก้ผดผื่นคันคาลาไมน์  บรรเทาอาการคันเนื่องจาก
ผดผื่นคัน และ ลมพิษ 

เขย่าขวดก่อนใช้ยา
ทาบริเวณที่เป็นวันละ 3-4 ครั้ง 

ยารักษาเกลื้อน 
โซเดียม ไทโอซัลเฟต 
รักษาเกลื้อน 

เติมน้ำสะอาดจนถึงคอขวด
จากนั้น เขย่าผสมให้เข้ากัน
จนตัวยาละลาย  

แนะนำทาบริเวณที่เป็นเกลื้อน
หลังอาบน้ำ วันละหลายครั้ง

 

ข้อควรระวังในการใช้ยาสามัญประจำบ้าน

ข้อควรระวังในการใช้ยาสามัญประจำบ้าน

 

  1. ควรอ่านฉลาก และใบกำกับยาอย่างละเอียด โดยควรตรวจสอบข้อมูลบนฉลากยา เช่น ปริมาณการใช้, เวลาที่ควรใช้ (ก่อนหรือหลัง), ผลข้างเคียง และข้อควรระวัง หรือการเก็บรักษายา เพื่อการใช้ยาอย่างถูกต้อง 
  2. อย่าใช้ร่วมกับยาอื่นโดยไม่ปรึกษาเภสัชกร การใช้ยาหลายชนิดพร้อมกันอาจทำให้ยาเกิด “ปฏิกิริยาระหว่างยา” (drug interaction) เช่น ต้านฤทธิ์กัน หรือเสริมฤทธิ์กันจนเป็นอันตราย 
  3. ไม่ควรใช้ยาที่หมดอายุ หรือมีลักษณะเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็น สี กลิ่น เนื้อสัมผัส เพราะนั่นอาจหมายถึงตัวยาที่มีฤทธิ์ลดลง หรือกลายเป็นสารที่ไม่ปลอดภัยต่อร่างกาย รวมไปถึงยาที่หมดอายุ ถึงแม้ว่ายาบางชนิดจะดูไม่เปลี่ยนแปลง แต่ภายในอาจเสื่อมสภาพแล้ว จึงไม่แนะนำให้ใช้ต่อ  
  4. หลีกเลี่ยงการ “เดายา” หรือใช้ตามคำบอกเล่าจากคนอื่น เช่น การใช้ยาตามคำแนะนำจากเพื่อน ญาติ หรือข้อมูลในอินเทอร์เน็ต โดยไม่รู้แน่ชัดว่ายาเหมาะกับเราไหม ซึ่งอาจเสี่ยงต่ออาการแพ้ หรือการรักษาที่ไม่ตรงจุด 
  5. ไม่ควรใช้ยาร่วมกับแอลกอฮอล์ การใช้ยาสามัญประจำบ้านกับแอลกอฮอล์ อาจเสริมฤทธิ์หรือรบกวนการออกฤทธิ์ของยา เช่น ยาแก้แพ้จะทำให้ง่วงมากขึ้นหากดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย ซึ่งเป็นอันตรายหากต้องขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักร 

 

วิธีดูแลและเก็บรักษายาสามัญประจำบ้าน

เพื่อให้ยาอยู่ในสภาพที่ดีและมีประสิทธิภาพ เจ้าของบ้านควรปฏิบัติตามดังนี้ 

  • เก็บยาในที่แห้ง หรือเย็น เพื่อให้ห่างไกลจากแสงแดด 
  • หลีกเลี่ยงการเก็บยาในห้องน้ำหรือที่มีความชื้นสูง 
  • ปิดฝาภาชนะให้แน่นหลังใช้ 
  • ตรวจสอบวันหมดอายุของยาเป็นประจำ 
  • แยกยาเด็ก และ ยาผู้ใหญ่ให้ชัดเจนเพื่อป้องกันความสับสน 

 

การใช้สิทธิบัตรทองในการขอรับยาสามัญประจำบ้าน 

สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่น เวียนศีรษะ ปวดหัว ท้องเสีย มีบาดแผล หรือ เกิดผื่นผิวหนัง ฯลฯ สามารถใช้สิทธิบัตรทอง เพื่อรับบริการที่ร้านยาที่เข้าร่วม “โครงการร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ” ได้ ซึ่งจะมีเภสัชกรคอยให้คำปรึกษา และจ่ายยาที่จำเป็น เช่น ยาแก้แพ้ทั่วไป หรือ ยาแก้แพ้แบบไม่ง่วง เพื่อบรรเทาอาการแพ้ต่าง ๆ ให้หายดีขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

ผู้ที่ต้องการใช้สิทธิบัตรทองสำหรับรักษาอาการคันที่ร้านยา สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านยาใกล้บ้านได้ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) [เช็กรายชื่อร้านยาได้ที่นี่] โดยร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้เข้าร่วมโครงการสิทธิบัตรทอง พร้อมให้บริการ Delivery จัดส่งยาและสินค้าสุขภาพถึงบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน ALL PharmaSee 

 

ใช้บริการ Delivery คลิกเลย!  

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ยาสามัญประจำบ้าน 

Q: ยาสามัญประจำบ้าน จำเป็นต้องมีใบสั่งแพทย์หรือไม่? 

A: ไม่จำเป็น เพราะยาสามัญดังกล่าว ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายและใช้ได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง 

Q: เราสามารถใช้ยาสามัญประจำบ้าน แทนการไปหาหมอได้ไหม? 

A: ใช้ได้เฉพาะกรณีที่อาการไม่รุนแรง แต่ถ้าใช้แล้วยังไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรไปพบแพทย์ทันที 

Q: หากใช้ยาสามัญประจำบ้านเกินขนาดจะเป็นอะไรไหม? 

A: อาจเกิดผลข้างเคียง หรือพิษจากยา เช่น พาราเซตามอลเกินขนาดอาจทำให้ตับวาย ควรรีบพบแพทย์ทันทีหากสงสัยว่าใช้ยาเกินขนาด 

 

สรุป 

การมี “ยาสามัญประจำบ้าน” ติดไว้ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน เนื่องจากสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยได้ในเบื้องต้น ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการลุกลามจนรุนแรง ดังนั้น ทุกครอบครัวจึงควรจัดเตรียมยาสามัญประจำบ้านให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับสรรพคุณรวมถึงวิธีการใช้ยาอย่างถูกต้อง เพื่อให้การใช้ยาเป็นไปอย่างปลอดภัย 

 

ที่มา 

สืบค้นยาสามัญประจำบ้าน จาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  

รายการยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน จาก กระทรวงสาธารณสุข 

 


อัปเดตและติดตามสาระสุขภาพดี ๆ จาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้ที่

LINE: @eXtaPlus (https://bit.ly/eXtaplus)

หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ แล้วมาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ

All Pharma See

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เอ็กซ์ต้าเห็นการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่นๆ เอ็กซ์ต้ายังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้เอ็กซ์ต้าไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า ทั้งนี้หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก