ปวดเบ้าตา ปวดหัว เกิดจากอะไร? สาเหตุ พร้อมวิธีบรรเทาอาการ

ปวดเบ้าตา ปวดหัว เกิดจากอะไร? สาเหตุ พร้อมวิธีบรรเทาอาการ

หลายคนอาจเคยประสบกับอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว ที่ดูเหมือนจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นพร้อมกันในหลาย ๆ ครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่าอาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพได้ ทั้งในกรณีที่เป็นอาการเบื้องต้นของโรคบางอย่างที่ควรได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หรืออาจเกิดจากการใช้สายตาที่มากเกินไปในชีวิตประจำวัน  

บทความนี้ ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว เกิดจากอะไร รวมถึงวิธีการบรรเทาอาการเหล่านี้อย่างง่าย ที่สามารถทำได้เอง 

 

สาเหตุอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว เกิดจากอะไร ? 

อาการปวดเบ้าตาและปวดหัวอาจเกิดจากหลายสาเหตุ โดยบางสาเหตุสามารถระบุได้ชัดเจน เช่น การใช้งานสายตาเป็นเวลานาน หรือความเครียดจากการทำงาน แต่บางครั้งอาการเหล่านี้อาจเกิดจากปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อนและต้องการการดูแลรักษาในระยะยาว มาดูกันว่าอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว เกิดจากอะไรได้บ้าง 

 

การใช้สายตานานเกินไป 

สาเหตุหลักที่พบบ่อยที่สุดของอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว คือความเครียดและความเหนื่อยล้าของสายตา (Eye Strain) โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ใช้เวลากับหน้าจอดิจิทัลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ต การจ้องมองหน้าจอเป็นเวลานานโดยไม่มีการพักสายตา ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาทำงานหนักและเกิดอาการเกร็ง ส่งผลให้เกิดอาการปวดบริเวณเบ้าตาและลามไปถึงศีรษะได้ 

นอกจากนี้ การทำงานในสภาพแสงที่ไม่เหมาะสม เช่น แสงสว่างน้อยเกินไปหรือจ้าเกินไป การอ่านหนังสือหรือทำงานที่ต้องใช้สายตามากโดยไม่มีการพัก ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว ได้ทั้งสิ้น 

 

ความเครียดและความวิตกกังวล 

ความเครียดและความวิตกกังวลสามารถทำให้เกิดความตึงเครียดในกล้ามเนื้อรอบ ๆ ดวงตาและคอ ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดเบ้าตาได้ หากกล้ามเนื้อในบริเวณนี้ตึงเครียดไม่ผ่อนคลาย ก็จะทำให้เกิดอาการปวดทั้งในส่วนของเบ้าตาและศีรษะได้ง่าย 

สำหรับกรณีที่มีความเครียดสะสม ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางด้านอารมณ์และร่างกาย โดยกล้ามเนื้อในบริเวณคอและไหล่จะเกิดการหดตัว ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวหรือปวดเบ้าตาได้อย่างต่อเนื่อง ในบางกรณี อาจทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาตึงเกินไป จนทำให้รู้สึกปวดบริเวณเบ้าตา และบางครั้งยังสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวร่วมด้วยได้ 

 

ปัญหาสายตา

ปัญหาสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่มักจะทำให้เกิดอาการปวดเบ้าตาและปวดหัวได้ เนื่องจากหากมีปัญหาสายตาและไม่ได้รับการแก้ไขด้วยแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสม กล้ามเนื้อตาอาจจะต้องทำงานหนักเกินไปในการปรับโฟกัส จนนำไปสู่ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อตาและทำให้เกิดอาการปวดได้ นอกจากนี้ การไม่สวมแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้อีกด้วย 

 

การนอนไม่เพียงพอ 

การนอนหลับไม่เพียงพอหรือการนอนหลับที่ไม่สม่ำเสมอเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับการฟื้นฟูจากการนอนหลับอย่างเต็มที่ ทำให้สมองไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ และเมื่อสมองไม่สามารถพักผ่อนได้ตามที่ต้องการ อาจเกิดอาการปวดหัวจากการสะสมของความเหนื่อยล้าและความเครียดได้ 

 

ไซนัสอักเสบ 

อีกสาเหตุหนึ่งที่พบได้บ่อยของอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว คือโรคไซนัสอักเสบ ซึ่งเป็นภาวะที่เยื่อบุโพรงไซนัสเกิดการอักเสบ ทำให้มีอาการปวดบริเวณหน้า โดยเฉพาะบริเวณเบ้าตา หน้าผาก และโหนกแก้ม อาการปวดจากไซนัสอักเสบมักจะรุนแรงขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งศีรษะ เช่น การก้มหน้า หรือนอนราบ 

ผู้ที่มีอาการไซนัสอักเสบมักจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น น้ำมูกข้น อาจมีสีเขียวหรือเหลือง คัดจมูก จามบ่อย รู้สึกกดเจ็บบริเวณใบหน้า และบางครั้งอาจมีไข้ร่วมด้วย อาการปวดเบ้าตา ปวดหัว จากไซนัสอักเสบมักจะเป็นอาการปวดแบบตื้อ ๆ และต่อเนื่อง 

 

โรคไมเกรนและปัญหาทางระบบประสาท 

ไมเกรนเป็นโรคปวดศีรษะชนิดหนึ่งที่พบบ่อยและมักมีอาการปวดเบ้าตาร่วมด้วย ลักษณะเฉพาะของอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว จากไมเกรนคือมักจะปวดข้างเดียว (แต่บางครั้งอาจปวดทั้งสองข้าง) มีความรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก และมักเป็นอาการปวดหัวแบบตุบ ๆ เหมือนชีพจรเต้น 

นอกจากอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว แล้ว ผู้ที่เป็นไมเกรนมักมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน แพ้แสง แพ้เสียง และบางรายอาจมีอาการนำก่อนเกิดอาการปวด เช่น เห็นแสงวาบ จุดบอด หรือเส้นซิกแซ็ก ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดไมเกรนมีหลายอย่าง เช่น ความเครียด การนอนไม่เพียงพอ การข้ามมื้ออาหาร อาหารบางชนิด (เช่น ชีส ช็อกโกแลต ไวน์แดง) และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน 

 

วิธีการบรรเทาอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว

วิธีการบรรเทาอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว

 

เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุของอาการปวดเบ้าตาและปวดหัวแล้ว ต่อไปคือวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ ซึ่งบางวิธีสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน และบางวิธีอาจต้องการการดูแลจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการรักษาอย่างตรงจุด 

 

การพักสายตา 

การพักสายตาเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลในการบรรเทาอาการปวดเบ้าตา หากต้องทำงานที่ใช้สายตานาน ๆ เช่น การทำงานกับคอมพิวเตอร์ หรือการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ควรให้เวลากับดวงตาได้พักบ้างทุก ๆ 20 นาที โดยใช้กฎ 20-20-20 ซึ่งหมายถึงการมองไปที่วัตถุห่างประมาณ 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อช่วยลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อตา 

 

การผ่อนคลายความเครียด 

การฝึกหายใจลึก ๆ หรือการทำสมาธิเป็นวิธีที่ช่วยลดความเครียดและช่วยบรรเทาความตึงเครียดที่เกิดขึ้นจากการทำงานหรือความวิตกกังวล การหายใจลึก ๆ และการมุ่งเน้นจิตใจไปที่การผ่อนคลายจะช่วยให้ร่างกายกลับสู่สภาวะสงบ ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และช่วยลดอาการปวดหัวได้

 

การใช้ยาแก้ปวด 

การใช้ยาแก้ปวดที่มีขายตามร้านยาทั่วไป เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ หากอาการไม่รุนแรง และไม่เกิดจากโรคที่ต้องรักษาเฉพาะทาง การใช้ยาเหล่านี้สามารถช่วยลดอาการปวดได้ในระยะสั้น 

 

การปรับท่าทางการทำงานและการพักผ่อน 

การปรับท่าทางการนั่งทำงานเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อเกิดความตึงเครียด หรือการยืดกล้ามเนื้อบ่อย ๆ ในช่วงเวลาทำงานสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ นอกจากนี้การมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอและการนอนหลับอย่างเต็มที่จะช่วยลดความตึงเครียดจากการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ 

 

การตรวจสุขภาพสายตา 

หากอาการปวดเบ้าตา และปวดหัวเกิดจากปัญหาสายตา ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็กสุขภาพสายตาและแก้ไขปัญหาด้วยแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสม โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาสายตายาว สายตาสั้น หรือสายตาเอียงที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข 

 

การรักษาไซนัสอักเสบเพื่อบรรเทาอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว

หากอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว เกิดจากไซนัสอักเสบ การบรรเทาอาการอักเสบของไซนัสจะช่วยลดอาการปวดได้ วิธีที่ทำได้เองที่บ้าน ได้แก่  

  • การพ่นไอน้ำ การสูดดมไอน้ำอุ่นจะช่วยทำให้เยื่อบุโพรงไซนัสชุ่มชื้น ลดอาการคัดจมูก และช่วยระบายน้ำมูกออกจากโพรงไซนัส 
  • การใช้น้ำเกลือล้างจมูก การใช้น้ำเกลือล้างจมูกจะช่วยขจัดน้ำมูกและสิ่งระคายเคืองออกจากโพรงจมูก ลดอาการอักเสบ และช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น 
  • การดื่มน้ำอุ่น ๆ และเครื่องดื่มอุ่น การรับประทานของอุ่นจะช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและช่วยให้รู้สึกสบายขึ้น 
  • การใช้ยาแก้ปวดที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ ยาพาราเซตามอลหรือยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบได้ 

ทั้งนี้ หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 7-10 วัน หรือมีอาการรุนแรงขึ้น มีไข้สูง น้ำมูกมีเลือดปน หรือมีอาการปวดรุนแรงมาก ควรพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากอาจเป็นไซนัสอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ต้องการการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ หรืออาจมีภาวะแทรกซ้อนที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน 

 

บรรเทาอาการไมเกรนเพื่อลดความถี่ของอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว 

สำหรับผู้ที่มีอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว จากไมเกรน การจัดการและป้องกันการเกิดอาการไมเกรนเป็นสิ่งสำคัญ วิธีที่สามารถทำได้เอง ได้แก่ 

  • การหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น สังเกตและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรนของคุณ เช่น อาหารบางชนิด ความเครียด การนอนไม่เพียงพอ 
  • การพักผ่อนในที่มืดและเงียบ เมื่อเริ่มมีอาการไมเกรน ให้พักในห้องที่มืดและเงียบ เพื่อลดการกระตุ้นจากแสงและเสียง 
  • การประคบเย็นหรือร้อน การประคบเย็นที่ศีรษะหรือต้นคอ หรือการประคบร้อนที่ไหล่และต้นคอ อาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้ 
  • การฝึกเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ โยคะ หรือการทำสมาธิ อาจช่วยลดความเครียดและป้องกันการเกิดไมเกรนได้ 
  • การใช้ยาแก้ปวด ยาแก้ปวดที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน หรือแอสไพริน สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดในระยะเริ่มต้นได้ 

ทั้งนี้ หากมีอาการไมเกรนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง (มากกว่า 2-3 ครั้งต่อเดือน) หรือมีอาการรุนแรงที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด 

 

เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์ 

ปวดเบ้าตา ปวดหัว เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์

 

แม้อาการปวดเบ้าตาและปวดหัวจะเป็นอาการที่หลายคนสามารถบรรเทาได้ด้วยวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้น แต่ในบางกรณี การไปพบแพทย์อาจจำเป็นเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสม โดยเฉพาะหากอาการเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือเริ่มมีอาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นควรสังเกตอาการ และหากพบว่าเกิดอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์

 

  1. อาการปวดเบ้าตา ปวดหัวเรื้อรัง

หากมีอาการปวดเบ้าตา ปวดหัวที่เกิดขึ้นบ่อยและไม่หายไป หรืออาการกลับมาอีกครั้งในระยะเวลาอันสั้น แสดงว่าอาจมีสาเหตุที่ต้องได้รับการรักษา เช่น ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับสายตา การติดเชื้อ หรือแม้กระทั่งปัญหาจากการทำงานของระบบประสาท ดังนั้นควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและทำการรักษาอย่างตรงจุด

 

  1. อาการปวดหัวรุนแรงและมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ

หากอาการปวดหัวมีความรุนแรง และมาพร้อมกับอาการปวดหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม หรือการมองเห็นผิดปกติ เช่น มองเห็นเป็นแสงวูบวาบหรือภาพซ้อน อาจเป็นสัญญาณของโรคไมเกรนหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น ความดันโลหิตสูงหรือปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง ซึ่งต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ทันที

 

  1. อาการปวดเบ้าตาที่เกิดขึ้นร่วมกับการมองเห็นผิดปกติ

หากมีอาการปวดเบ้าตาและพบว่ามีการมองเห็นที่ลดลง หรือรู้สึกว่ามีการมองเห็นที่ผิดปกติ เช่น มองไม่ชัด หรือเห็นภาพเบลอ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสายตาหรือการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับจักษุวิทยา เช่น ต้อหิน (Glaucoma) หรือโรคทางตาอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

  1. อาการปวดหัวที่เกิดจากการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ

หากอาการปวดหัวและปวดเบ้าตาเกิดขึ้นหลังจากการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุที่ศีรษะ เช่น การล้ม การชนหรือการกระทบกระแทกที่มีแรงกระแทกแรง ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อการตรวจสอบว่ามีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บที่สมองหรือไม่ เช่น การเกิดอาการบาดเจ็บที่สมอง (Traumatic Brain Injury – TBI)

 

  1. อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นร่วมกับอาการทางระบบประสาท

หากอาการปวดหัวมีอาการร่วม เช่น ชาครึ่งซีกของใบหน้า แขน หรือขา หรือมีอาการอ่อนแรงในบางส่วนของร่างกาย อาจเป็นสัญญาณของภาวะหลอดเลือดสมองตีบหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท จึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจจากแพทย์โดยด่วน

 

  1. อาการปวดเบ้าตาและปวดหัวที่เกิดจากการใช้ยา

หากคุณกำลังใช้ยาหรือเสพสารบางประเภท เช่น ยาแก้ปวด หรือยาสเตอรอยด์ และเริ่มมีอาการปวดเบ้าตาและปวดหัวเกิดขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาว่าอาการเหล่านี้อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยา หรือหากมีการใช้ยาเกินขนาด 

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการปวดเบ้าตา ปวดหัว 

Q: ปวดเบ้าตา ปวดหัว เกิดจากอะไร? 

A: อาการปวดเบ้าตาและปวดหัวสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การใช้สายตานานเกินไปจากการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ความเครียดจากการทำงานหรือปัญหาส่วนตัว ปัญหาสายตา เช่น สายตาสั้นหรือยาว หรือการนอนไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดในกล้ามเนื้อและการไหลเวียนเลือดไม่ดี 

Q: การใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือทำให้เกิดอาการปวดเบ้าตา ปวดหัวไหม? 

การใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานโดยไม่พักสายตาอาจทำให้เกิดอาการปวดเบ้าตา ปวดหัวได้ เนื่องจากการใช้สายตาในระยะใกล้และแสงจากหน้าจอทำให้กล้ามเนื้อตาตึงเครียด การพักสายตาเป็นประจำทุก 20 นาทีสามารถช่วยลดอาการนี้ได้ 

Q: การใช้ยาแก้ปวดช่วยบรรเทาอาการปวดเบ้าตา ปวดหัวได้หรือไม่? 

A: การใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอลหรือไอบูโพรเฟน สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ชั่วคราว แต่หากอาการเกิดขึ้นบ่อยหรือไม่หายไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและการรักษาที่เหมาะสม 

Q: อาการปวดเบ้าตา ปวดหัวจากความเครียดบรรเทาได้อย่างไร? 

การผ่อนคลายความเครียดผ่านการฝึกหายใจลึก ๆ หรือการทำสมาธิสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ นอกจากนี้การพักผ่อนให้เพียงพอและการออกกำลังกายเบา ๆ ก็สามารถช่วยลดความตึงเครียดและบรรเทาอาการปวดได้ 

Q: การใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ช่วยลดอาการปวดเบ้าตาและปวดหัวได้หรือไม่? 

A: การใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสมกับปัญหาสายตา สามารถช่วยลดอาการปวดเบ้าตาและปวดหัวได้ เนื่องจากการใช้สายตาอย่างไม่เหมาะสมสามารถทำให้เกิดความตึงเครียดในกล้ามเนื้อตาและนำไปสู่อาการปวดได้ 

 

สรุป 

อาการปวดเบ้าตาและปวดหัวเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากการใช้สายตานานเกินไป ความเครียดสะสม ปัญหาสายตา เช่น สายตาสั้นหรือยาว รวมไปถึงการนอนไม่เพียงพอหรือปัญหาทางระบบประสาทอื่น ๆ ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการพักสายตา การผ่อนคลายความเครียด การปรับพฤติกรรมการนอน และการตรวจสุขภาพสายตาอย่างสม่ำเสมอ 

หากอาการปวดเบ้าตาและปวดหัวไม่ดีขึ้น หรือมีอาการที่รุนแรงขึ้น เช่น การมองเห็นผิดปกติ หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและสามารถฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างรวดเร็ว 

การดูแลตัวเองและการรู้จักวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงของการเกิดอาการปวดเบ้าตาและปวดหัวในอนาคต และควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

 

ที่มา  

Eye Pain จาก Clevelandclinic 

What to Know About an Eyestrain Headache บทความจาก Healthline 

Headache Relief for Eyes’ Pressure จาก Eyecaresuperior 

What causes headaches behind the eye, and how to remedy them? บทความจาก Medicalnewstoday 

 


อัปเดตและติดตามสาระสุขภาพดี ๆ จาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้ที่

LINE: @eXtaPlus (https://bit.ly/eXtaplus)

หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ แล้วมาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ

All Pharma See

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เอ็กซ์ต้าเห็นการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่นๆ เอ็กซ์ต้ายังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้เอ็กซ์ต้าไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า ทั้งนี้หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก