เชื้อรา เท้า ดูยังไงว่าใช่ ? วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นก่อนเรื้อรัง

เชื้อรา เท้า ดูยังไงว่าใช่ ? วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นก่อนเรื้อรัง eXta Plus

เชื้อรา เท้า ปัญหาสุขภาพเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม แต่กลับสร้างความรำคาญและอาจลุกลามจนกลายเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่เท้ามักเปียกชื้นจากการเดินลุยน้ำหรือตากรองเท้าไม่แห้ง เชื้อราจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอับชื้น ทำให้เกิดอาการคัน แสบ ผิวลอก หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ 

ด้วยความห่วงใยจาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ เชื้อรา เท้า ดูยังไงว่าใช่? พร้อมวิธีสังเกตอาการเบื้องต้น และการดูแลรักษาก่อนเรื้อรัง มาฝากกัน   

 

 

เชื้อรา เท้า คืออะไร?

 

เชื้อรา เท้า คืออะไร? ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส

 

เชื้อรา เท้า หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า Tinea Pedis เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อรากลุ่ม Dermatophytes โดยเชื้อเหล่านี้มักเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อับชื้น เช่น รองเท้าที่ไม่แห้งสนิท ถุงเท้าที่ใส่ซ้ำ หรือพื้นที่สาธารณะอย่างห้องอาบน้ำรวม ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ 

โรคนี้ถือว่าพบได้บ่อยในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่อากาศชื้นและหลายคนต้องเดินลุยน้ำจนทำให้เท้าเปียกตลอดเวลา อาการอาจเริ่มจากเพียง คัน ผิวลอกเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแลก็สามารถลุกลามจนกลายเป็นการติดเชื้อเรื้อรังได้ 

 

 

สาเหตุของ เชื้อรา เท้า เกิดจากอะไรบ้าง? 

การติดเชื้อรา เท้า ไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายสาเหตุที่เอื้อให้เชื้อราสามารถเจริญเติบโตและแพร่กระจายได้ง่าย หากเข้าใจสาเหตุเหล่านี้ก็จะช่วยให้สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น 

  1. เกิดจากความอับชื้น เชื้อราชื่นชอบสภาพแวดล้อมที่อับและชื้น เช่น ภายในรองเท้าหุ้มส้นที่ใส่นาน ๆ หรือรองเท้าที่เปียกฝนแล้วไม่ได้ตากแดดให้แห้งสนิท ความชื้นที่สะสมทำให้เชื้อราเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นอาการผื่นคันและผิวหนังลอก 
  2. เกิดจากการสัมผัสโดยตรง เช่น พื้นที่สาธารณะอย่างห้องน้ำรวม ฟิตเนส หรือสระว่ายน้ำ เป็นจุดที่เชื้อรามักสะสมอยู่ หากเดินเท้าเปล่าโดยไม่มีการป้องกัน อาการเกิดเชื้อราก็จะสามารถเข้าสู่ผิวหนังได้ทันที โดยเฉพาะในคนที่มีแผลเล็ก ๆ บริเวณเท้า 
  3. เกิดจากการรักษาสุขอนามัยไม่ดีพอ หลายคนที่ชอบล้างเท้าไม่สะอาดหรือไม่เช็ดเท้าให้แห้งหลังอาบน้ำ ความชื้นเล็กน้อยที่ค้างอยู่ตามซอกนิ้วก็เพียงพอที่จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราได้ 
  4. เกิดจากการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น รองเท้าหรือถุงเท้าที่ใช้ร่วมกัน รวมไปถึงผ้าเช็ดตัว อาจเป็นพาหะนำเชื้อราโดยไม่รู้ตัว เพราะเชื้อสามารถอยู่รอดได้นานในสิ่งของเหล่านี้ 
  5. เกิดจากอาการภูมิตก หรือ ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โดยสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือผู้สูงอายุ มักมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่าปกติ จึงติดเชื้อได้ง่าย และอาการมักรุนแรงกว่าคนทั่วไป 

 

 

ใครบ้างที่เสี่ยงเกิด เชื้อรา เท้า ได้ง่าย ๆ 

  • นักกีฬา โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหุ้มตลอดเวลา เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล หรือวิ่ง เนื่องจากเท้ามักอับชื้นและมีเหงื่อสะสม เชื้อราจึงเจริญเติบโตได้ง่าย จนโรคนี้ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Athlete’s Foot 
  • ผู้ทำงานที่ต้องสวมรองเท้าหุ้มตลอดเวลา เช่น ทหาร ตำรวจ พนักงานโรงงาน หรือพนักงานที่ต้องใส่รองเท้านิรภัย (Safety Shoes) ตลอดทั้งวัน เมื่อเท้าไม่ได้สัมผัสอากาศเลย จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อราที่ดี 
  • คนที่เท้าเปียกชื้นบ่อย ในฤดูฝนหรือตามพื้นที่ที่มักมีน้ำท่วมขัง คนที่ต้องเดินลุยน้ำหรือใส่รองเท้าเปียกตลอดเวลา จะมีความเสี่ยงเป็นราที่เท้าได้สูงมาก 
  • ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เนื่องจากภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าคนทั่วไป ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย และหากเป็นแล้วมักหายช้ากว่า 
  • คนที่เหงื่อออกมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีเหงื่อออกที่ฝ่าเท้ามากผิดปกติ (Hyperhidrosis) เมื่อเท้ามีเหงื่อสะสมตลอดวัน หากไม่ทำความสะอาดและเปลี่ยนถุงเท้าเป็นประจำ จะมีโอกาสสูงที่จะทำให้เท้าเกิดเชื้อรา 

 

 

5 อาการของ เชื้อราบริเวณเท้า ที่ควรสังเกต พร้อมดูแลรักษาเบื้องต้น

1. คันบริเวณซอกนิ้วเท้า ที่เกิดจาก เชื้อรา เท้า

  

คันบริเวณซอกนิ้วเท้า ที่เกิดจาก เชื้อรา เท้า ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส

 

อาการคันที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดของ เชื้อรา เท้า มักเริ่มต้นที่ซอกนิ้ว โดยเฉพาะระหว่างนิ้วก้อยและนิ้วนาง เพราะเป็นจุดที่อับชื้น ระบายอากาศได้น้อย หากปล่อยไว้อาจลุกลามจนผิวหนังแตกหรือมีน้ำเหลืองซึมออกมาได้ หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงการระคายเคืองธรรมดา แต่แท้จริงแล้วนี่คือสัญญาณแรกของอาการติดเชื้อรา 

การดูแลเชื้อราบริเวณเท้าเบื้องต้น 

  • เช็ดเท้าให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำหรือเดินลุยน้ำ โดยใช้ผ้าสะอาดซับตามซอกนิ้วอย่างระมัดระวัง 
  • เลือกทาแป้งดูดซับความชื้นหรือยาทารักษาเชื้อราที่มีตัวยา Clotrimazole, Miconazole หรือ Econazole 
  • หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าหุ้มส้นนาน ๆ เพื่อให้เท้าได้ระบายอากาศ 

 

2. ผิวหนังลอกหรือแตก

 

ผิวหนังลอกหรือแตก อาการเบื้องต้น เชื้อรา เท้า eXta Plus

 

อีกหนึ่งอาการที่พบได้บ่อยคือ ผิวหนังลอกเป็นขุย โดยเฉพาะบริเวณฝ่าเท้าและส้นเท้า บางรายผิวแตกจนเจ็บหรือแสบ ซึ่งอาจทำให้เดินลำบากและเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม การปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้เชื้อราแทรกซึมลึกลงในผิวหนังและรักษายากขึ้น 

การดูแลเบื้องต้น 

  • หลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือขัดถูแรง ๆ เพราะจะทำให้เกิดบาดแผลและติดเชื้อได้ง่าย 
  • ใช้ครีมยาทาเชื้อราที่มีตัวยา Terbinafine หรือ Ketoconazole ทาบริเวณที่ลอก 
  • รักษาความชุ่มชื้นของผิวด้วยโลชั่นสูตรอ่อนโยนที่ไม่ก่อให้เกิดการอับชื้น 

 

3. มีกลิ่นเท้าแรงผิดปกติ

 

มีกลิ่นเท้าแรงผิดปกติ อาการเบื้องต้น เชื้อรา เท้า

 

กลิ่นเท้าแรงไม่ได้เกิดจากเหงื่อเพียงอย่างเดียว แต่บ่อยครั้งเกิดจากการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียที่เติบโตในสภาพอับชื้น หากกลิ่นแรงจนผิดปกติ ควรระวังว่าอาจเป็นอาการของเชื้อราเท้า ซึ่งหากปล่อยไว้จะทำให้เสียความมั่นใจในการเข้าสังคม 

การดูแลเชื้อราเท้าเบื้องต้น 

  • ซักและเปลี่ยนถุงเท้าทุกวัน โดยเลือกผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย 
  • แช่เท้าในน้ำเกลืออุ่นหรือน้ำผสมเบกกิงโซดา 10–15 นาที เพื่อช่วยลดเชื้อราและกลิ่น 
  • ทำความสะอาดรองเท้าเป็นประจำ และนำไปผึ่งแดดเพื่อลดการสะสมของเชื้อรา 

 

4. มีตุ่มน้ำใสหรือหนองเล็ก

 

เชื้อรา เท้า มีตุ่มน้ำใสหรือหนองเล็ก ๆ eXta Plus

 

เชื้อราบางชนิดอาจก่อให้เกิดตุ่มน้ำใสเล็ก ๆ บริเวณฝ่าเท้าและซอกนิ้ว รู้สึกคันหรือเจ็บ หากเกาแรง ๆ อาจแตกเป็นแผลและติดเชื้อแบคทีเรียร่วม ทำให้กลายเป็นตุ่มหนองได้ การเจาะตุ่มเองไม่เพียงไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น แต่ยังเสี่ยงทำให้เชื้อแพร่กระจายมากขึ้นอีกด้วย 

การดูแลเบื้องต้น 

  • ห้ามเจาะหรือบีบตุ่มน้ำเอง เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ 
  • ใช้ยาทาฆ่าเชื้อราที่มีประสิทธิภาพ เช่น Terbinafine หรือ Ciclopirox 
  • หากตุ่มมีอาการอักเสบ บวมแดง หรือมีหนอง ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับยาที่เหมาะสม 

 

5. ชื้อราที่เล็บเท้า 

 

เชื้อราที่เล็บเท้า ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส

 

เมื่อเชื้อราลุกลามไปถึงเล็บ จะทำให้เล็บหนา แข็ง สีเหลืองหรือสีน้ำตาล เล็บแตกหรือหลุดลอกง่าย อาการนี้เรียกว่า เชื้อราที่เล็บ (Onychomycosis) ซึ่งรักษายากกว่าที่ผิวหนังทั่วไป และมักใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย 

การดูแลเชื้อราบริเวณเล็บเท้าเบื้องต้น 

  • ใช้ยาทาเล็บฆ่าเชื้อราโดยเฉพาะ (antifungal nail lacquer) ที่มีตัวยา Amorolfine หรือ Ciclopirox 
  • รักษาความสะอาดเล็บ ตัดเล็บสั้น และไม่ใช้กรรไกรตัดเล็บร่วมกับผู้อื่น 
  • หากเล็บติดเชื้อรุนแรง ควรพบแพทย์เพื่อรับยาฆ่าเชื้อราชนิดรับประทาน ซึ่งต้องกินต่อเนื่องเป็นเดือน 

 

 

วิธีเลือกใช้ยาในการรักษา หรือบรรเทาอาการ เชื้อรา เท้าอย่างถูกต้อง

 

 วิธีเลือกใช้ยาในการรักษา หรือบรรเทาอาการ เชื้อรา เท้า ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส

 

การรักษาเชื้อรา เท้า สามารถทำได้ทั้งแบบใช้ยาทาเฉพาะที่ และยารับประทาน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยควรเลือกใช้ยาอย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด  

ซึ่งยาประเภทก็จะมีทั้งแบบในกลุ่มของตัวยาสามัญประจำบ้านที่หาซื้อได้ง่าย กับตัวยาที่ออกฤทธิ์แรง เสี่ยงมีผลข้างเคียงต่อตับ ไต ที่อาจจะต้องใช้ตามใบสั่งและการดูแลของแพทย์เท่านั้น 

1. ยาทารักษาเชื้อรา เท้า (Topical Antifungal)

เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีอาการหรือเชื้อรายังไม่ลุกลามมาก ใช้สะดวกและปลอดภัย 

  • ตัวยาที่นิยมใช้: Clotrimazole, Miconazole, Terbinafine, Ketoconazole, Ciclopirox 
  • วิธีใช้ 
    • ล้างเท้าและเช็ดให้แห้งก่อนทายา 
    • ทาบริเวณที่เป็นเชื้อราและรอบ ๆ วันละ 2 ครั้ง หรือใช้ตามคำแนะนำในฉลาก
    • ควรใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 2–4 สัปดาห์ แม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
  • ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการหยุดยาเองเมื่ออาการทุเลา เพราะเชื้อราอาจยังคงอยู่ใต้ผิวหนัง

 

2. ยารับประทาน (Oral Antifungal)

ใช้ในกรณีที่เชื้อราลุกลามมาก เป็นเรื้อรัง หรือกระจายไปถึงเล็บ ซึ่งยาทาเพียงอย่างเดียวอาจเอาไม่อยู่ 

  • ตัวยาที่ใช้บ่อย
    • Terbinafine : มักใช้รักษาเชื้อราที่เล็บและผิวหนัง ใช้เวลารักษา 6–12 สัปดาห์ 
    • Itraconazole : มีฤทธิ์ครอบคลุมเชื้อได้กว้าง เหมาะกับกรณีติดเชื้อหลายตำแหน่ง 
    • Fluconazole : ใช้ได้กับผู้ที่ไม่สามารถทนต่อยาอื่นได้ 
  • ข้อควรระวัง
    • ยากลุ่มนี้อาจมีผลข้างเคียงต่อตับและไต จึงควรใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น
    • ห้ามซื้อยามารับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเกิดอันตรายหรือดื้อยาได้ 

 

 

พฤติกรรมแบบไหนที่ไม่ควรทำ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเชื้อราบริเวณเท้า

  • ไม่ใส่รองเท้าเปียกหรือยังไม่แห้งสนิท 
  • ไม่ใส่ถุงเท้าซ้ำ ควรซักและตากแดด 
  • หลีกเลี่ยงการใช้รองเท้า/ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น 
  • ไม่เดินเท้าเปล่าในห้องน้ำสาธารณะ 
  • ไม่ละเลยอาการคันหรือผิวลอกเล็ก ๆ เพราะอาจลุกลามได้

 

 

การใช้สิทธิบัตรทองเพื่อรับยารักษา อาการเชื้อรา เท้า

สำหรับผู้ป่วยที่กำลังเผชิญเชื้อรา เท้า รวมถึงมีอาการคันยุบยิบ และต้องการยาบรรเทาอาการให้ดีขึ้นสามารถใช้สิทธิบัตรทอง เพื่อรับบริการที่ร้านยาที่เข้าร่วม “โครงการร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ” ได้ ซึ่งจะมีเภสัชกรคอยให้คำปรึกษา และจ่ายยาที่จำเป็นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

ผู้ที่ต้องการใช้สิทธิบัตรทองสำหรับรักษาอาการคันที่ร้านยา สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านยาใกล้บ้านได้ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) [เช็กรายชื่อร้านยาได้ที่นี่] โดยร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้เข้าร่วมโครงการสิทธิบัตรทอง พร้อมให้บริการ Delivery จัดส่งยาและสินค้าสุขภาพถึงบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน ALL PharmaSee 

 

ใช้บริการ Delivery คลิกเลย!

 

3 คำถามพบบ่อย เกี่ยวกับ การเกิดเชื้อรา เท้า 

Q: เชื้อรา เท้า สามารถหายเองได้ไหม? 

A: หากอาการไม่รุนแรงและดูแลสุขอนามัยดีขึ้น บางครั้งอาจดีขึ้นได้ แต่ส่วนใหญ่ควรใช้ยารักษาร่วมด้วย 

Q: หากใช้ยาทาเพียงอย่างเดียว จะดีขึ้นหรือไม่? 

A: ถ้าอาการยังไม่ลุกลาม การใช้ยาทามักจะเพียงพอต่อการรักษา แต่หากเชื้อลามไปเล็บหรือเป็นหนัก ควรใช้ยารับประทานร่วมด้วย 

Q: เชื้อรา เท้า สามารถติดต่อได้ไหม? 

A: สามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อ เช่น ห้องน้ำรวม รองเท้า ถุงเท้า เป็นต้น  

 

 

สรุป 

เชื้อรา เท้าเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในหน้าฝนที่เท้ามักจะพบกับการเปียกชื้น ซึ่งอาการเริ่มต้นของการติดเชื้อดังกล่าวมักจะเกิดอาการคัน ผิวลอก มีกลิ่น หรือมีตุ่มน้ำ หากสังเกตและรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้ลุกลามเป็นเรื้อรังได้ 

ดังนั้น หากผู้ป่วยเริ่มมีอาการที่เข้าข่าย เท้าเป็นเชื้อรา ควรรีบทำการดูแลเบื้องต้นทันที เช่น การรักษาความสะอาด หรือเลือกใช้กลุ่มยาที่เหมาะสม โดยหากอาการไม่ดีขึ้น รีบพบแพทย์ผิวหนังทันที เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดเชื้อราในระยะยาว 

 

ที่มา 

Tinea pedis จาก DermNet 

Symptoms of athlete’s foot จาก National Health Service (NHS) 

Athlete’s foot – Symptoms and causes จาก Mayo Clinic   

Treatment of Ringworm and Fungal Nail Infections จาก CDC 

Everything you need to know about athlete’s foot จาก Medical News Today 

 


อัปเดตและติดตามสาระสุขภาพดี ๆ จาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้ที่

LINE: @eXtaPlus (https://bit.ly/eXtaplus)

หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ แล้วมาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ

All Pharma See

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เอ็กซ์ต้าเห็นการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่นๆ เอ็กซ์ต้ายังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้เอ็กซ์ต้าไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า ทั้งนี้หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก