มึนหัวตลอดเวลา เกิดจากอะไร รวมสาเหตุ พร้อมวิธีดูแล

มึนหัวตลอดเวลา เกิดจากอะไร รวมสาเหตุ พร้อมวิธีดูแล

มึนหัวตลอดเวลา เกิดจากอะไร เคยไหม? อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกมึนหัว อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ทั้ง ๆ ที่สุขภาพร่างกายไม่ได้ป่วยเป็นหวัด หรือ อดนอนเลย โดยอาการแบบนี้หากเกิดขึ้นซ้ำบ่อย ๆ นั่นอาจไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป เพราะถือเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างที่กำลังบ่งบอกว่าร่างกายของเรานั้นกำลังเผชิญกับความผิดปกติ 

ด้วยความห่วงใยจาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ มึนหัวตลอดเวลา เกิดจากอะไร รวมสาเหตุที่ควรรู้ พร้อมวิธีการดูแลอย่างถูกต้อง มาฝากกัน 

 

อาการมึนหัว คืออะไร?  

 

มึนหัวตลอดเวลา เกิดจากอะไร

 

อาการมึนหัว (Dizziness) คือความรู้สึกไม่มั่นคงทางร่างกาย รู้สึกเบาหวิว ราวกับจะล้ม หรือในบางครั้งอาจรู้สึกว่าโลกหมุน (เวียนศีรษะ) ซึ่งแตกต่างจากอาการปวดหัวโดยสิ้นเชิง อาการมึนหัวตื้อ ๆ มักมาพร้อมกับความรู้สึกคลื่นไส้ เหงื่อออก หูอื้อ ตาพร่ามึนหัว หรืออ่อนเพลียร่วมด้วย 

มึนหัวสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือเกิดขึ้นซ้ำบ่อย ๆ จนกลายเป็น “มึนหัวตลอดเวลา” ซึ่งควรสังเกตว่าเป็นอาการชั่วคราวหรือมีโรคแฝงอยู่เบื้องหลัง บางคนอาจรู้สึกมึนหัวเพียงไม่กี่นาที แต่บางรายอาจรู้สึกต่อเนื่องทั้งวัน ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต การทำงาน และการเข้าสังคมในชีวิตประจำวัน 

 

อาการมึนหัวตลอดเวลา มีสาเหตเกิดจากอะไรบ้าง? 

 

อาการมึนหัวตลอดเวลา มีสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง?

 

เมื่อร่างกายส่งสัญญาณผ่านความรู้สึกมึนศีรษะอยู่ตลอดเวลา อาจสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นภายใน แม้อาการดังกล่าวอาจดูไม่รุนแรงในช่วงแรก แต่หากเกิดขึ้นซ้ำบ่อยหรือยาวนานกว่าปกติ ควรให้ความใส่ใจและพิจารณาสาเหตุอย่างรอบคอบ โดยอาการมึนหัวตลอดเวลา มีสาเหตุเกิดจากอะไรบ้างนั้น มาดูกัน  

  1. ความเครียดและสภาวะทางจิตใจ

หนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องรับมือกับแรงกดดันจากงาน หรือ ปัญหาชีวิตส่วนตัว ความเครียดเรื้อรัง วิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า หรืออาการแพนิก ที่สามารถรบกวนการทำงานของระบบประสาทได้โดยตรง จนส่งผลทำให้เกิดอาการมึนศีรษะ หน้ามืด หรือแน่นหน้าอก โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น การพูดต่อหน้าคนหมู่มาก หรืออยู่ในพื้นที่แออัด เป็นต้น 

  1. ภาวะร่างกายขาดน้ำ หรือ เกลือแร่

อาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายจากการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน เช่น การดื่มน้ำน้อย หรือ เสียเหงื่อมากเกินไปหลังออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งเมื่อร่างกายขาดน้ำ หรือ สูญเสียเกลือแร่จำนวนมาก อาจทำให้ความดันโลหิตต่ำลง และส่งผลให้สมองมีการสูบฉีดเลือดที่ไม่เพียงพอ  

ซึ่งทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หรือ รู้สึกเบาหวิวได้ง่าย ๆ โดยมักพบในช่วงที่อากาศร้อนจัดหรือหลังจากการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก 

  1. ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ

มักพบได้ในผู้ที่งดอาหารเป็นเวลานาน หรือ ผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้อย่างไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเมื่อระดับน้ำตาล มีการลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ก็มักทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการหน้ามืด มือเย็น เหงื่อออกมาก หรือในบางรายอาจมีอาการมึนศีรษะตามมา 

  1. การทรงตัวที่ผิดปกติ

เช่น โรคเวียนศีรษะจากหูชั้นใน (BPPV) หรือ เวียนหัว บ้านหมุน ที่มักเกิดขึ้นเมื่อเวลาขยับศีรษะเร็ว ๆ เช่น หันคอ หรือลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ฯลฯ โดยมักมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้ ที่อาจทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างลำบาก ซึ่งหากพบอาการดังกล่าว ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยทันที 

  1. ความดันโลหิตต่ำ หรือ สูงผิดปกติ

เมื่อความดันไม่อยู่ในระดับสมดุล ร่างกายจะสูญเสียความสามารถในการควบคุมการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง โดยหากผู้ป่วยมีความดันที่ต่ำ อาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะเวลายืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ผู้ป่วยความดันสูง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองได้ ซึ่งอาการมึนหัวจากสาเหตุนี้ ถือเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพเริ่มต้นที่ไม่ควรมองข้าม 

  1. ผลข้างเคียงจากการใช้ยา

เนื่องจากยาหลายมักมีฤทธิ์ที่ส่งผลต่อระบบประสาทโดยตรง เช่น ยานอนหลับ ยาลดความดันโลหิต หรือ ยาแก้แพ้ เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้เรารู้สึกวิงเวียนศีรษะ ง่วงนอน หรือมีความไม่มั่นคงในการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความไวต่อฤทธิ์ของยาเป็นพิเศษ จึงควรติดตามอาการอย่างใกล้ชิดเมื่อมีการใช้ยา 

  1. อาการปวดหัวไมเกรน

สำหรับผู้ที่มีประวัติปวดหัวไมเกรน บางครั้งอาการเวียนศีรษะ อาจเกิดขึ้นก่อน หรือ หลังการปวดศีรษะได้ง่ายๆ โดยที่อาการมักจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และอาจมีความรุนแรงที่ส่งผลต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ดังนั้นจึงหากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำจะดีที่สุด 

  1. ภาวะโลหิตจาง

ภาวะนี้เกิดจากการที่ร่างกายผลิตเม็ดเลือดแดงได้น้อยลง ทำให้การส่งออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงยังสมองมีไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ที่มีภาวะโลหิตจางนี้ มักมีอาการรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ใจสั่น และมึนศีรษะเรื้อรัง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาก หรือ ผู้สูงอายุที่รับประทานอาหารไม่ครบหมู่ และขาดธาตุเหล็ก 

  1. โรคระบบประสาท และ สมอง

แม้จะเป็นสาเหตุที่พบไม่บ่อย แต่โรคในกลุ่มนี้มักมีความรุนแรงสูง เช่น โรคพาร์กินสัน เนื้องอกในสมอง หรือโรคหลอดเลือดสมอง อาการเวียนศีรษะจากสาเหตุเหล่านี้มักเกิดร่วมกับอาการอื่น ๆ ที่ชัดเจน เช่น เดินเซ พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง หรือหมดสติ หากมีอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์ทันที 

 

มึนหัวแบบนี้ ควรใช้ยาอะไรดี?

 

มึนหัวแบบนี้ ควรใช้ยาอะไรดี?

 

การเลือกใช้ยาบรรเทาอาการมึนหัว คลื่นไส้ควรอ้างอิงจากสาเหตุที่แท้จริงของอาการ เพื่อให้การรักษาได้ผลลัพธ์ดีที่สุด โดยเภสัชกรแนะนำการใช้ยาเบื้องต้นในแต่ละกรณี ดังนี้ 

  1. ยาแก้มึนหัว เวียนศีรษะ
    เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการมึนหัวจากความผิดปกติของหูชั้นใน เช่น โรคเวียนศีรษะตำแหน่งศีรษะผิดปกติ (BPPV) หรือภาวะเมารถ เมาเรือ โดยยาที่แพทย์มักจะใช้คือ Dimenhydrinate (ดิมีนไฮดริเนต) และ Betahistine Hydrochloride ซึ่งออกฤทธิ์ช่วยปรับสมดุลของระบบประสาทส่วนที่ควบคุมการทรงตัว 
  2. ยาคลายความวิตกกังวลแบบอ่อน
    สำหรับผู้ที่มีอาการมึนหัวร่วมกับความเครียด วิตกกังวล หรือภาวะแพนิก เช่นในผู้ที่มีอาการเวียนศีรษะขณะอยู่ในที่แออัด ยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ Doxylamine หรือ Diazepam ที่มีฤทธิ์ช่วยผ่อนคลายระบบประสาทและลดอาการกระวนกระวาย โดยต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น 
  3. ยารักษาอาการแพ้หรือไซนัสอักเสบ
    ในกรณีที่มึนหัวเกิดจากการคัดจมูก ภูมิแพ้หรือไซนัสอักเสบ ยาแก้แพ้ เช่น Chlorpheniramine สามารถช่วยลดอาการอักเสบในโพรงไซนัสและลดความดันภายในศีรษะได้ 
  4. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการมึนหัวจากภาวะโลหิตจาง หรือขาดสารอาหารที่สำคัญ เช่น ธาตุเหล็ก วิตามิน B12 หรือภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ โดยอาจพิจารณาให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น ธาตุเหล็กชนิดรับประทาน, วิตามินบีรวม หรือเกลือแร่แบบชงดื่ม (ORS) 

 

ข้อควรระวังในการใช้ยา

  • ยาบรรเทาอาการเวียนศีรษะบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้หรือยาคลายกังวล ควรหลีกเลี่ยงการใช้ติดต่อกันเกิน 3 วัน หากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง 
  • ยาบางประเภท อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม ปากแห้ง หรือวิงเวียนมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ จึงควรระมัดระวังในการใช้ 
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาใด ๆ 
  • หลีกเลี่ยงการขับรถ ทำงานกับเครื่องจักร หรือกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ หลังรับประทานยาแก้เวียนศีรษะหรือยาใด ๆ ที่มีฤทธิ์กดประสาท 
  • สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แม้สามารถใช้ต่อเนื่องได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ควรใช้อย่างเหมาะสมตามคำแนะนำบนฉลาก  

ทั้งนี้ หากไม่แน่ใจว่าอาการเวียนศีรษะของตนเกิดจากอะไร ควรปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยจากบุคลากรทางการแพทย์ และรับคำแนะนำการใช้ยาที่ถูกต้อง 

 

เมื่อเกิดอาการมึนหัว มีวิธีแก้ หรือดูแลเบื้องต้นอย่างไร?

สำหรับคนที่ชอบมีอาการมึนหัวบ่อย ๆ วิธีแก้อาการมึนหัวเบื้องต้น ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามได้ ดังนี้ 

  • ควรหยุดกิจกรรมทันที โดยเฉพาะหากคุณกำลังขับรถ หรืออยู่บนที่สูง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ 
  • ลองนั่งหรือนอนลงในท่าที่ศีรษะอยู่ในระดับเดียวกับร่างกาย และทำการหลับตาดูสักครู่เพื่อให้สมองได้มีการพักผ่อน 
  • ดื่มน้ำเปล่าช้า ๆ หากสงสัยว่าเกิดจากภาวะขาดน้ำหรืออากาศร้อน 
  • หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อผ่อนคลายความวิตกกังวล และพยายามควบคุมลมหายใจให้สม่ำเสมอ 
  • หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว เช่น การลุกจากเตียงฉับพลัน ควรนั่งพักก่อนประมาณ 1 นาทีแล้วค่อยลุก 
  • หลีกเลี่ยงคาเฟอีน และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์  รวมถึงการสูบบุหรี่ เพราะอาจกระตุ้นอาการให้มีความรุนแรงขึ้น 

ทั้งนี้ หากมีอาการมึนหัวตลอดเวลา หรือเกิดขึ้นบ่อย ควรบันทึกเวลาที่เกิด รายละเอียดอาการร่วม เพื่อนำไปแจ้งแพทย์ในการวินิจฉัย 

 

การใช้สิทธิบัตรทองเพื่อขอรับยาอาการแก้มึนหัว เวียนศีรษะ 

สำหรับผู้ที่มีอาการมึนหัวตลอดเวลา เวียนศีรษะ ปวดหัว โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร และต้องการขอคำแนะนำจากเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ สามารถใช้สิทธิบัตรทอง เพื่อรับบริการที่ร้านยาที่เข้าร่วม “โครงการร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ” ได้ ซึ่งจะมีเภสัชกรคอยให้คำปรึกษา และจ่ายยาที่จำเป็นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

ผู้ที่ต้องการใช้สิทธิบัตรทองสำหรับรักษาอาการคันที่ร้านยา สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านยาใกล้บ้านได้ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) [เช็กรายชื่อร้านยาได้ที่นี่] โดยร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้เข้าร่วมโครงการสิทธิบัตรทอง พร้อมให้บริการ Delivery จัดส่งยาและสินค้าสุขภาพถึงบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน ALL PharmaSee 

 

ใช้บริการ Delivery คลิกเลย!

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ มึนหัวตลอดเวลา เกิดจากอะไร 

Q: อาการมึนหัวตลอดเวลา เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง? 

A: อาการมึนหัวตลอดเวลาสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของหูชั้นใน เช่น น้ำในหูไม่เท่ากัน หินปูนในหูชั้นในหลุด, ความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิต ได้แก่ ความดันโลหิตต่ำ, โลหิตจาง, โรคไมเกรน, ความเครียด, พักผ่อนไม่เพียงพอ และผลข้างเคียงจากยา หรือปัญหาจากกล้ามเนื้อต้นคอ 

Q: อาการมึนหัวตลอดเวลาแบบไหนที่ควรรีบไปพบแพทย์? 

A: หากมีอาการมึนหัวร่วมกับอาการอื่นที่รุนแรง เช่น ชาตามแขนขา เดินเซ พูดไม่ชัด ตาพร่ามัว อาเจียนรุนแรง หรือมีประวัติเป็นลมหรือหมดสติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง 

Q: ควรดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อมีอาการมึนหัวตลอดเวลา? 

A: เบื้องต้นควรหยุดกิจกรรมเสี่ยง นั่งหรือนอนพัก ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว และพักผ่อนให้เพียงพอ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือเกิดขึ้นบ่อย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง 

 

สรุป มึนหัวตลอดเวลา เกิดจากอะไร 

อาการมึนหัวตลอดเวลา ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และไม่ควรละเลย เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพ และ โรคร้ายบางอย่างที่กำลังซ่อนอยู่ เช่น ความเครียดและสภาวะทางจิตใจ, การทรงตัวที่ผิดปกติ, ความดันเลือด, ผลข้างเคียงจากการใช้ยา และ โรคสมองต่าง ๆ เป็นต้น 

ดังนั้น การรู้จักสาเหตุที่เป็นไปได้ของอาการนี้ จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับอาการได้อย่างถูกต้อง ทั้งในแง่ของการใช้ยา การดูแลตัวเอง และการพบแพทย์เมื่อจำเป็น  

 

ที่มา 

อาการบ้านหมุน เวียนศีรษะ จาก โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ 

ไมเกรน อาการปวดหัวสุดกวนใจ จาก โรงพยาบาลรามาธิบดี 

What Is Dizziness? จาก WebMD 

Dimenhydrinate จาก Medline Plus 

 


อัปเดตและติดตามสาระสุขภาพดี ๆ จาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้ที่

LINE: @eXtaPlus (https://bit.ly/eXtaplus)

หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ แล้วมาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ

All Pharma See

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เอ็กซ์ต้าเห็นการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่นๆ เอ็กซ์ต้ายังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้เอ็กซ์ต้าไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า ทั้งนี้หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก