อาหารแก้ท้องเสียที่หาง่ายในครัวไทย กินอะไรได้บ้าง รับมือโรคหน้าฝน

อาหารแก้ท้องเสียที่หาง่ายในครัวไทย กินอะไรได้บ้าง รับมือโรคหน้าฝน eXta Plus

หน้าฝนเป็นช่วงเวลาที่ปัญหา ท้องเสีย มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากความชื้นสูงทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ง่าย การเลือกรับประทาน อาหารแก้ท้องเสีย ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีอาการปวดท้องบิด ท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำ หรือถ่ายเหลวเป็นน้ำ การรู้จักเลือกอาหารที่หาง่ายในครัวไทยจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับปัญหานี้ได้ง่ายขึ้น 

ในบทความนี้ ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส จึงได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับอาหารแก้ท้องเสียที่หาง่ายในครัวไทย พร้อมคำแนะนำเพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพระบบทางเดินอาหารได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย 

 

สาเหตุและอาการท้องเสียในหน้าฝน 

การเข้าใจสาเหตุของปัญหาท้องเสียจะช่วยให้เราสามารถเลือกอาหารแก้ท้องเสียได้อย่างเหมาะสมมากขึ้นในช่วงหน้าฝนนั้น ความชื้นสูงและอุณหภูมิที่เหมาะสมทำให้เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และปรสิตเจริญเติบโตได้ง่าย โดยเฉพาะในอาหารที่เก็บไว้ไม่ถูกวิธีหรืออาหารที่ปรุงไว้นานแล้ว 

 

เชื้อโรคที่เป็นสาเหตุหลักของท้องเสีย 

  • เชื้อแบคทีเรียอย่าง Salmonella, E. coli และ Campylobacter เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียรุนแรง อาการที่พบได้แก่ ปวดท้องบิด ท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน และในบางกรณีอาจมีไข้ร่วมด้วย การรู้จักสังเกตอาการเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเลือกวิธีการดูแลที่เหมาะสมได้ 
  • ไวรัสต่าง ๆ เช่น Norovirus และ Rotavirus เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก อาการที่เกิดขึ้นมักจะรุนแรงกว่าการติดเชื้อแบคทีเรีย และอาจมีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำอย่างต่อเนื่อง 

 

ปัจจัยเสี่ยงในช่วงหน้าฝน 

ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่การระบาดของโรคระบบทางเดินอาหารเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่เอื้อต่อการปนเปื้อนของเชื้อโรคในอาหารและน้ำดื่ม ดังนี้ 

  1. อาหารเน่าเสียหรือเสื่อมสภาพ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ ไข่ และผลิตภัณฑ์นม หากเก็บรักษาไม่ดีหรือแช่เย็นไม่เพียงพอ จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย เช่น Salmonella, E. coli, Campylobacter ได้ง่าย 
  2. อาหารที่มีกะทิ เช่น แกง ขนมหวาน หรืออาหารที่มีมะพร้าวผสม เน่าเสียได้รวดเร็วในอากาศชื้น 
  3. อาหารที่ผ่านการปรุงไว้นาน เช่น ข้าวมันไก่ ขนมจีน หรืออาหารกล่อง หากไม่ได้แช่เย็นหรืออุ่นร้อนก่อนรับประทาน เสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค 
  4. อาหารทะเลและผักสด หากไม่สด ไม่สะอาด หรือเก็บไว้นาน อาจเสี่ยงต่อการมีเชื้อโรคหรือพยาธิปนเปื้อน 
  5. อาหารปรุงสุกไม่ทั่วถึง อาหารดิบ หรืออาหารที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ลาบ ก้อยดิบ ส้มตำปูปลาร้า หมึกช็อต ยำหอยแครง หรือกุ้งเต้น มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคและพยาธิสูง รวมไปถึงอาหารที่ปรุงสุกแล้วแต่สัมผัสกับภาชนะหรือมือที่ไม่สะอาดหลังปรุงเสร็จ อาจนำเชื้อโรคเข้าสู่อาหารได้ 
  6. น้ำดื่มและน้ำแข็งที่ไม่สะอาด น้ำดื่มที่ไม่ได้ผ่านการกรองหรือต้มให้เดือดอาจมีเชื้อโรค เช่น E. coli, โคลิฟอร์ม หรือ Vibrio cholerae ซึ่งเป็นสาเหตุของอหิวาตกโรคและท้องเสียรุนแรงน้ำแข็งที่ผลิตจากน้ำไม่สะอาดหรือกระบวนการผลิตไม่ได้มาตรฐาน สามารถเป็นแหล่งปนเปื้อนเชื้อจุลชีพก่อโรค 
  7. ผักสดและผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด ผักสดและผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด อาจมีเชื้อโรคหรือไข่พยาธิจากดิน น้ำ หรือแมลงวันตอมปนเปื้อนอยู่การรับประทานสลัดหรือผักสดจึงควรล้างให้สะอาดหลาย ๆ ครั้งด้วยวิธีการล้างให้น้ำไหลผ่าน 
  8. พฤติกรรมการบริโภคและสุขอนามัย การรับประทานอาหารที่วางขายในที่โล่งแจ้ง มีแมลงวันตอม หรือสัมผัสกับฝุ่นละออง เสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรคการไม่ล้างมือก่อนรับประทานอาหารหรือหลังเข้าห้องน้ำ เพิ่มโอกาสรับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายการใช้ภาชนะหรืออุปกรณ์ที่ไม่สะอาดในการปรุงหรือรับประทานอาหาร 
  9. น้ำท่วมขังและน้ำฝนน้ำท่วมขัง ในฤดูฝนเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคและปรสิต หากอาหารหรือภาชนะสัมผัสกับน้ำเหล่านี้โดยตรงก็เสี่ยงต่อการปนเปื้อนน้ำฝนที่ปนเปื้อนอาจนำเชื้อโรคเข้าสู่แหล่งน้ำดื่มและอาหารได้ 

 

อาหารแก้ท้องเสีย ที่หาง่ายในครัวไทย 

อาหารแก้ท้องเสียที่หาง่ายในครัวไทย  eXta Plus

 

การเลือกอาหารแก้ท้องเสียที่เหมาะสมจะช่วยในการฟื้นฟูระบบย่อยอาหารและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน อาหารไทยหลายชนิดมีสรรพคุณในการบรรเทาอาการท้องเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ไม่กระตุ้นระบบย่อยอาหาร และมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นฟู 

 

เมนูอาหารหลักที่ย่อยง่ายสำหรับคนท้องเสีย 

  1. โจ๊กข้าวขาวหรือข้าวต้มหมูสับ

  • ข้าวขาว 1/2 ถ้วย 
  • น้ำเปล่า 4-5 ถ้วย 
  • หมูสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ (ลวกให้สุกก่อน) 
  • เกลือป่นเล็กน้อย 

วิธีทำ ต้มข้าวขาวกับน้ำจนเปื่อยนุ่ม ใส่หมูสับที่ลวกสุกแล้ว ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย ไม่ใส่เครื่องปรุงรสจัดหรือผักที่มีกากใยสูง 

สรรพคุณ ข้าวในโจ๊กให้คาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย ช่วยเสริมพลังงานให้ร่างกายโดยไม่ทำให้ลำไส้ทำงานหนัก โปรตีนจากหมูสับช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย น้ำในโจ๊กช่วยชดเชยน้ำที่สูญเสียจากการถ่ายเหลว และเกลือช่วยทดแทนเกลือแร่ที่หายไป 

เหมาะสำหรับ ผู้ที่เพิ่งมีอาการท้องเสียรุนแรง อาการถ่ายเป็นน้ำบ่อย ๆ หรือมีอาการอ่อนแรงจากการขาดน้ำ เป็นอาหารแรกที่ควรรับประทานเมื่ออาการเริ่มดีขึ้น 

 

  1. แกงจืดเต้าหู้หมูสับ

  • น้ำซุปต้มกระดูกหมูหรือไก่ 
  • เต้าหู้ไข่ 4-5 ชิ้น (หั่นเต๋า) 
  • หมูสับ 2 ช้อนโต๊ะ 
  • เกลือหรือซีอิ๊วขาวเล็กน้อย 

วิธีทำ ใช้น้ำซุปใสที่ต้มจากกระดูก ใส่เต้าหู้ไข่และหมูสับ ปรุงรสอ่อน ๆ ด้วยเกลือหรือซีอิ๊วขาวเล็กน้อย หลีกเลี่ยงผักที่มีกากใยสูง 

สรรพคุณ น้ำซุปให้น้ำและเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย เต้าหู้ไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่าย ไม่ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนัก หมูสับให้โปรตีนและเหล็กที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง รสชาติอ่อนไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหารและลำไส้ที่อักเสบ 

เหมาะสำหรับ ผู้ที่อาการท้องเสียเริ่มดีขึ้น สามารถรับประทานอาหารที่มีเนื้อสัมผัสมากกว่าโจ๊กได้ มีความต้องการโปรตีนเพิ่มขึ้น หรือต้องการอาหารที่ให้ความอิ่มนานขึ้น  

 

  1. ซุปไก่หรือซุปใส

  • ไก่หรือหมู 200 กรัม 
  • น้ำเปล่า 4 ถ้วย 
  • เกลือป่นเล็กน้อย 

วิธีทำ ต้มไก่หรือหมูในน้ำจนได้น้ำซุปใส ปรุงรสอ่อนๆ ไม่ใส่เครื่องเทศหรือผักมาก 

สรรพคุณ น้ำซุปไก่อุดมไปด้วยอิเล็กโทรไลต์ (โซเดียม โพแทสเซียม) ที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย โปรตีนจากไก่หรือหมูที่ละลายในน้ำซุปย่อยง่าย ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเสริมภูมิคุ้มกัน อุณหภูมิอุ่นของซุปช่วยส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต 

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการอ่อนแรง เหนื่อยง่าย หรือขาดน้ำจากการท้องเสีย ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายหลังป่วย หรือผู้ที่มีอาการคลื่นไส้เล็กน้อยแต่ยังสามารถดื่มของเหลวได้ 

 

เมนูผลไม้และสมุนไพรที่ช่วยแก้ท้องเสีย 

  1. กล้วยน้ำว้าดิบ/ห่าม

วิธีรับประทาน ปอกกล้วยรับประทานสด หรือฝานเป็นแว่นบาง ๆ ตากแดดให้แห้ง บดเป็นผง ชงกับน้ำต้มสุกอุ่น ดื่มครั้งละ ½-1 ผล  

สรรพคุณ กล้วยน้ำว้าดิบมีแทนนิน (Tannins) สูง ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ Astringent ช่วยสมานแผลและลดการอักเสบในลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็ก เพคติน (Pectin) ในกล้วยช่วยดูดซับน้ำส่วนเกินในลำไส้ ทำให้อุจจาระแข็งตัวขึ้น โพแทสเซียมช่วยทดแทนเกลือแร่ที่สูญเสียจากการถ่ายเหลว และคาร์โบไฮเดรตให้พลังงานที่ย่อยง่าย 

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการถ่ายเป็นน้ำบ่อย ๆ ท้องเสียเรื้อรัง หรือมีการอักเสบของลำไส้ เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในระยะแรกของการท้องเสียที่ต้องการให้อุจจาระแข็งตัวเร็วที่สุด 

 

  1. ฝรั่ง (ผลอ่อนและใบแก่)

  • ผลฝรั่งอ่อน 1 ผล หรือใบฝรั่งแก่ 10-15 ใบ 
  • น้ำปูนใสหรือน้ำเปล่า 

วิธีใช้ ผลอ่อนฝนกับน้ำปูนใสดื่มเมื่อมีอาการถ่าย สำหรับใบแก่ให้ปิ้งไฟให้กรอบ แล้วต้มกับน้ำสะอาดหรือชงกับน้ำร้อน ดื่มเป็นชาสมุนไพร 

สรรพคุณ ฝรั่งมีสารแทนนินสูง ทำให้มีฤทธิ์ฝาดและสมานลำไส้ได้ดี วิตามิน C ในฝรั่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและต้านอนุมูลอิสระ สารประกอบ Flavonoids ช่วยลดการอักเสบและมีฤทธิ์ปฏิชีวนะเบา ๆ กาลิค แอซิด (Gallic Acid) ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของท้องเสีย 

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการท้องเสียจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ถ่ายมีเลือดปนเล็กน้อย หรือมีอาการปวดท้องบิดร่วมด้วย เหมาะกับผู้ใหญ่และเด็กโตที่ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระเสริมด้วย 

 

  1. เปลือกมังคุด

  • เปลือกมังคุดแห้ง ครึ่งผล 
  • น้ำปูนใสหรือน้ำต้มสุก 100 มิลลิลิตร 

วิธีใช้ ย่างเปลือกมังคุดแห้งไฟให้เกรียม ฝนกับน้ำปูนใสหรือน้ำต้มสุก 

สรรพคุณ เปลือกมังคุดอุดมไปด้วยสาร Xanthones โดยเฉพาะ α-mangostin และ γ-mangostin ที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและต้านการอักเสบสูง สารเหล่านี้ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของ E. coli, Salmonella และ Staphylococcus aureus แทนนินช่วยสมานลำไส้และลดการอักเสบของเยื่อบุลำไส้ สารต้านอนุมูลอิสระช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย 

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการท้องเสียรุนแรงจากการติดเชื้อ มีไข้ร่วมด้วย หรือมีการอักเสบของลำไส้มาก เหมาะกับผู้ใหญ่ที่ต้องการสารต้านแบคทีเรียจากธรรมชาติ 

 

  1. เปลือกและเมล็ดทับทิม

  • เปลือกทับทิมแห้ง 1/4 ผล หรือเมล็ดทับทิมแห้ง 6-9 กรัม 
  • น้ำปูนใสหรือน้ำต้มสุกอุ่น 

วิธีใช้ เปลือกฝนกับน้ำปูนใส รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ สำหรับเมล็ดให้ตากแห้งบดละเอียด ชงกับน้ำต้มสุกอุ่นดื่ม 

สรรพคุณ เปลือกและเมล็ดทับทิมมีแทนนินสูงถึง 20-25% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มผลไม้สมุนไพรไทย สาร punicalagin และ ellagic acid มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและต้านไวรัสแรง ช่วยลดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร anthocyanins ให้สีแดงของทับทิม มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยซ่อมแซมเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ 

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการท้องเสียเรื้อรัง ถ่ายมีเลือดปน หรือมีแผลในกระเพาะอาหารร่วมด้วย เหมาะกับผู้ที่ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระสูง แต่ควรระวังในผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ 

 

เมนูน้ำต้มสมุนไพรไทย 

  1. น้ำต้มขิง

  • ขิงแห้งหรือสด 1 นิ้ว (ฝานบางๆ) 
  • น้ำต้มสุกอุ่น 1 แก้ว 

วิธีทำ ชงขิงกับน้ำต้มสุกอุ่น ดื่มวันละ 1 แก้ว 

สรรพคุณ ขิงมีสารออกฤทธิ์หลักคือ Gingerol และ Zingiberene ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรีย Gingerol ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยและเอนไซม์ย่อยอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น สารประกอบ Shogaol ช่วยลดอาการคลื่นไส้และอาเจียน ขิงยังมีฤทธิ์ขับลมในลำไส้ ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และมีสรรพคุณอุ่นท้อง เหมาะกับการแก้อาการปวดท้องเนื่องจากลมในท้อง 

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ร่วมกับท้องเสีย ปวดท้องจากลมในท้อง หรือมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ เหมาะกับทุกวัย แต่ควรระวังในหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่มีโรคกระเพาะอาหาร 

 

  1. ชาใบสะระแหน่

  • ใบสะระแหน่สด 1 กำมือ 
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วย 

วิธีทำ ต้มใบสะระแหน่กับน้ำ ดื่มเป็นชาสมุนไพร 

สรรพคุณ ใบสะระแหน่มีน้ำมันหอมระเหย Menthol เป็นสารหลัก ที่ให้ความรู้สึกเซาะแสบและช่วยขับลมในลำไส้ได้ดี สาร Menthone และ Menthyl Acetate ช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้ ทำให้ลดอาการปวดท้องจากลมในท้อง Rosmarinic Acid มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านจุลชีพ ช่วยลดการระคายเคืองของลำไส้ ขณะเดียวกันก็ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร 

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ มีลมในท้องมาก ปวดท้องแบบบิดเบี้ยว หรือมีปัญหาการย่อยอาหารไม่ดีร่วมกับท้องเสีย เหมาะกับผู้ใหญ่และเด็กโต ไม่เหมาะกับเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี 

 

  1. น้ำต้มลำต้นและรากมะเขือยาว

  • ลำต้นและรากมะเขือยาว 1 กำมือ 
  • น้ำเปล่า 3 ถ้วย 

วิธีทำ ต้มลำต้นและรากมะเขือยาวกับน้ำ ดื่มเพื่อบรรเทาอาการถ่ายไม่หยุด 

สรรพคุณ ลำต้นและรากมะเขือยาวมีสารไฟโตเคมิคอล (phytochemicals) ที่มีฤทธิ์สมานลำไส้และลดการอักเสบ สาร alkaloids และ glycosides ช่วยยับยั้งการหดตัวมากเกินไปของลำไส้ ทำให้ลดการถ่ายที่บ่อยเกินไป สาร saponins มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียเบาๆ ช่วยลดการติดเชื้อในลำไส้ นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุและวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้เยื่อบุลำไส้ 

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการถ่ายไม่หยุด ถ่ายบ่อยมากในวัน หรือมีอาการท้องเสียเรื้อรังที่ยาสมัยใหม่ช่วยไม่ได้ดี เหมาะกับผู้ใหญ่ที่ต้องการใช้สมุนไพรเสริมการรักษา แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ในผู้ป่วยเรื้อรังกับน้ำต้มสุกอุ่น ดื่มวันละ 1 แก้ว ขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้ ขับลม และบรรเทาอาการปวดท้อง 

 

การดูแลตนเองเมื่อมีอาการท้องเสียบ่อย

การดูแลตนเองเมื่อท้องเสียบ่อย กินอะไรก็ท้องเสีย ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส

 

สำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องเสียบ่อย กินอะไรก็ท้องเสีย การเลือกทานอาหารจำเป็นต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากระบบย่อยอาหารอาจมีความไวต่อการกระตุ้นมากกว่าปกติ การเลือกรับประทานอาหารที่อ่อนโยนต่อกระเพาะอาหารและลำไส้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง 

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

  • อาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะอาหารทอด ควรหลีกเลี่ยงในช่วงที่มีอาการท้องเสีย เพราะไขมันจะทำให้การย่อยอาหารช้าลง และอาจกระตุ้นให้เกิดอาการท้องเสียมากขึ้น อาหารรสเผ็ด รสเปรี้ยวจัด และอาหารที่มีเครื่องเทศมากก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน 
  • ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว สับปะรด และผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง อาจทำให้อาการท้องเสียรุนแรงขึ้น  
  • การดื่มนมและผลิตภัณฑ์จากนม ควรงดทานในช่วงแรก เพราะแลคโตสอาจทำให้เกิดการถ่ายเหลวมากขึ้น 

 

การรักษาสมดุลน้ำและเกลือแร่ 

การดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอสำคัญมากต่อร่างกาย แต่ในกรณีที่มีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำอย่างต่อเนื่อง การดื่มน้ำเกลือแร่หรือน้ำตาลเกลือจะช่วยชดเชยแร่ธาตุที่สูญเสียไป  

 

การใช้สิทธิบัตรทองในการรักษาอาการท้องเสีย

สำหรับผู้ที่มีอาการท้องเสีย สามารถใช้สิทธิบัตรทองเพื่อรับบริการที่ร้านยาที่เข้าร่วม “โครงการร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ” ได้ ซึ่งจะมีเภสัชกรคอยให้คำปรึกษา และจ่ายยาที่จำเป็น เพื่อบรรเทาอาการ ให้หายดีขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

ผู้ที่ต้องการใช้สิทธิบัตรทองสำหรับรักษาอาการท้องเสียที่ร้านยา สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านยาใกล้บ้านได้ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) [เช็กรายชื่อร้านยาได้ที่นี่] โดยร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้เข้าร่วมโครงการสิทธิบัตรทอง พร้อมให้บริการ Delivery จัดส่งยาและสินค้าสุขภาพถึงบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน ALL PharmaSee 

 

ใช้บริการ Delivery คลิกเลย! 

คำถามพบบ่อย เกี่ยวกับ อาหารแก้ท้องเสีย 

Q: ท้องเสียต้องกินอะไรถึงหายเร็วที่สุด?

A: อาหารแก้ท้องเสียที่ทำให้หายเร็วที่สุดคือข้าวต้มเปล่า และน้ำเกลือแร่ การรับประทานข้าวต้มเปล่าทีละน้อย ๆ บ่อย ๆ ครั้ง ร่วมกับการดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำและเกลือแร่จะช่วยให้อาการดีขึ้นภายใน 24-48 ชั่วโมง ทั้งนี้หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีไข้สูง ควรปรึกษาแพทย์ 

Q: ปวดท้องบิด ท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ํา กินยาอะไรดี? 

A: สำหรับอาการปวดท้องบิด ท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำ การใช้ยาเบื้องต้นที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยาที่ได้มาตรฐาน ได้แก่ ยาแก้ท้องเสียที่มีส่วนผสมของ Loperamide หรือ Attapulgite แต่ไม่ควรใช้เกิน 2-3 วัน ทั้งนี้ควรปรึกษาเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ยาทุกครั้ง 

Q: ถ่ายเหลว แต่ไม่ท้องเสีย เป็นอาการของโรคอะไร? 

A: การถ่ายเหลว แต่ไม่ท้องเสียอาจเป็นสัญญาณของปัญหาอื่น ๆ เช่น การย่อยอาหารไม่ดี โรคลำไส้แปรปรวน หรือการแพ้อาหารบางชนิด การสังเกตอาการร่วมอื่น ๆ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด หรือมีเลือดปนจะช่วยในการวินิจฉัยเบื้องต้น ถ้าอาการคงอยู่นานเกิน 1 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด 

Q: แก้ท้องเสีย จากอาหารเป็นพิษต้องทำอย่างไร? 

A: กรณีแก้ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ ขั้นแรกต้องหยุดรับประทานอาหารแข็งทันที ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อขับสารพิษออกจากร่างกาย หากมีอาการอาเจียนให้อาเจียนออกมา ไม่ควรฝืนกลั้น หากมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง ปวดท้องมาก อาเจียนไม่หยุด ควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที 

 

สรุป 

อาหารแก้ท้องเสีย เป็นทางเลือกเบื้องต้นที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้รวดเร็วโดยไม่ต้องใช้ยาในทันที โดยเฉพาะในกรณีที่อาการยังไม่รุนแรง ควรเน้นอาหารอ่อน ย่อยง่าย ดื่มน้ำเกลือแร่เสริม และหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นอาการ อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน หรือมีอาการรุนแรง เช่น ถ่ายเป็นมูกเลือด อาเจียนมาก หรือมีไข้สูงเกิน 38.5°C ควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น โรคติดเชื้อแบคทีเรียหรือพยาธิในลำไส้ 

การดูแลตนเองด้วยความเข้าใจและเลือกอาหารที่เหมาะสม คือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูสุขภาพทางเดินอาหารอย่างยั่งยืน 

 

ที่มา  

อาหารเป็นพิษ (Food Poisoning) จาก กรมควบคุมโรค 

อาหารสำหรับผู้ที่ท้องเสีย บทความจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  

“ซีฟู๊ด-อาหารพื้นบ้าน”ปรุงไม่สุก เสี่ยงท้องเสีย จาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 

Diarrhoeal disease จาก world health organization

โรคที่มากับหน้าฝน บทความจาก โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ 

แนะกิน “กล้วยน้ำว้าดิบ” ยับยั้งโรคท้องร่วง จาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 


อัปเดตและติดตามสาระสุขภาพดี ๆ จาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้ที่

LINE: @eXtaPlus (https://bit.ly/eXtaplus)

หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ แล้วมาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ

All Pharma See

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เอ็กซ์ต้าเห็นการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่นๆ เอ็กซ์ต้ายังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้เอ็กซ์ต้าไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า ทั้งนี้หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก